การดูแลผม

(credit: shutterstock)

ประโยชน์ของอัลมอนด์ต่อเส้นผมและหนังศีรษะ>

1.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ>

2.ช่วยบำรุงผมแห้งเสียให้สุขภาพดีขึ้น>

3. ช่วยลดปัญหาเส้นผมหลุดร่วง>

4. กระตุ้นผมให้ยาวเร็ว>

วิธีการใช้อัลมอนด์เพื่อบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ>

1.รับประทาน>

2. ใช้น้ำมันอัลมอนด์บำรุงผม>

สูตรหมักผม: น้ำมันมะพร้าว + อัลมอนด์ออยล์>

สูตรหมักผม: น้ำผึ้ง + อัลมอนด์ออยล์>

3.ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีส่วนผมของน้ำมันอัลมอนด์>

เราคงคุ้นชินกับชื่อน้ำมันอัลมอนด์ หรือ อัลมอนด์ออยล์ ที่ปรากฎเป็นส่วนผสมอยู่ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลผมกันมามากมาย คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมน้ำมันอัลมอนด์ ถึงถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมความงามอย่างแพร่หลาย วันนี้เราจะพาคุณไปไขคำตอบกัน

ประโยชน์ของอัลมอนด์ต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

(credit: shutterstock)

อัลมอนด์ จัดเป็นธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัวโอเมก้า 3 และวิตามินอี ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังดีต่อสุขภาพเส้นผมด้วย เพราะโอเมก้า 3 และวิตามินอี ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมตั้งแต่รากจรดปลาย เร่งผมยาวเร็วและทำให้ผมงอกใหม่แข็งแรง ไม่แห้งแตกปลาย การรับประทานเมล็ดอัลมอนด์ จึงเป็นการช่วยบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดีจากภายใน

1.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ

เนื่องจากอัลมอนด์มีวิตามินอีและวิตามินดีในปริมาณสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะได้ ดังนั้น หากคุณมีปัญหาเรื่องหนังศีรษะแห้งหรือสภาพผมแห้งกระด้าง แนะนำให้ใช้น้ำมันอัลมอนด์ หยดใส่ฝ่ามือ 2-3 หยด จากนั้นนวดหนังศีรษะให้ทั่วสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยทำให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นและสุขภาพดีขึ้นได้ค่ะ

2.ช่วยบำรุงผมแห้งเสียให้สุขภาพดีขึ้น

อัลมอนด์เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งสามารถช่วยซ่อมแซมและพื้นบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียและหยาบกระด้างให้กลับมามีเงางามและนุ่มสลวยขึ้นได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ให้งอกดีขึ้นอีกด้วย สำหรับคนที่ผมแห้งเสียมาก ลองทานอัลมอนด์เป็นประจำ รวมถึงใช้น้ำมันอัลมอนด์หมักผมร่วมด้วย จะช่วยทำให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงและนุ่มสวยขึ้นได้ค่ะ

3. ช่วยลดปัญหาเส้นผมหลุดร่วง

ปัญหาเรื่องผมร่วง อาจเกิดจากการขาดแมกนีเซียมในร่างกาย ซึ่งอัลมอนด์มีแมกนีเซียมสูง เมื่อรับประทานเป็นประจำ จะช่วยเติมแมกนีเซียมที่ร่างกายขาดแคลน และช่วยลดปัญหาผมร่วงลงได้

4. กระตุ้นผมให้ยาวเร็ว

ในอัลมอนด์มีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ซึ่งธาตุเหล็กมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ที่พาออกซิเจนและสารอาหารต่าองๆ ไปหล่อเลี้ยงร่างกาย เมื่อการไหลเวียนเลือดดี ก็ทำให้ร่างกายรับสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึง ไปบำรุงรากผมบนหนังศีรษะให้แข็งแรงขึ้นด้วย ทำให้เส้นผมที่งอกใหม่เติบโตได้ดี นอกจากนั้น ถ้าคุณใช้น้ำมันอัลมอนด์ นวดหนังศีรษะ นอกจากช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น การนวดยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณศีรษะให้ดีขึ้นด้วย

วิธีการใช้อัลมอนด์เพื่อบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ

(credit: shutterstock)

1.รับประทาน

ในการรับประทานอัลมอนด์เพื่อบำรุงผมนั้น ควรรับประทานอย่างถูกวิธี ในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีสม่ำเสมอและช่วยบำรุงเส้นผมจากภายใน แนะนำให้ดื่มนมอัลมอนด์ วันละ 1 แก้ว หรือรับประทานเมล็ดอัลมอนด์อบแห้งวันละ 4-5 เมล็ด ในตอนเช้าทุกวัน สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารควรแช่อัลมอนด์ในน้ำต้มสุกสะอาดก่อนรับประทานเพื่อขจัดสารท็อกซินที่เคลือบอยู่ด้านนอกออกไปให้หมดก่อน

2. ใช้น้ำมันอัลมอนด์บำรุงผม

นอกจากการรับประทาน ยังมีการสกัดน้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์ ซึ่งอัลมอนด์ออยล์ อุดมด้วยวิตามินอี ที่เป็นสารต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผมให้แข็งแรงไม่แห้งแตกปลาย ทำให้ผมยาวเติบโตได้เต็มที่ และในอัลมอนด์ ออยล์ยังมีวิตามินบี7 (Vitamin B7) หรือ ไบโอติน(biotin) ที่ช่วยเร่งการเติบโตของเส้นผมด้วย

การหมักผมด้วยน้ำมันอัลมอนด์ เป็นประจำช่วยให้หนังศีรษะและเส้นผมแข็งแรง ดูสุขภาพดีได้ เรามีสูตรหมักผมด้วยน้ำมันอัลมอนด์แบบทำได้ง่ายๆ ที่บ้านมาฝากกัน

(credit: shutterstock)

สูตรหมักผม: น้ำมันมะพร้าว + อัลมอนด์ออยล์

น้ำมันอัลมอนด์ที่ใช้หมักผมควรเป็น สวีทอัลมอนด์ออยล์ (sweet almond oil) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ และเนื้ออาโวคาโดสุกประมาณครึ่งลูก ผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม ชโลมลงบนเส้นผมและหนังศีรษะให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 40 นาที จึงสระผมตามปกติ การหมักผมสูตรนี้ควรหมักผมขณะผมแห้งและสะอาด เพื่อให้เกิดผล

สูตรหมักผม: น้ำผึ้ง + อัลมอนด์ออยล์

สูตรนี้ใช้ ส่วนผสมหลัก 3 ชนิด คือ น้ำผึ้งและอัลมอนด์ออยล์ และกล้วยหอมเริ่มต้นด้วยการนำ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในถ้วย และเติม อัลมอนด์ออยล์ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะลงไป พร้อมกับนำกล้วยหอมประมาณครึ่งผล หั่นเป็นชิ้นเล็กผสมลงไปในถ้วยและใช้ช้อนบดกล้วยให้ละเอียด จากนั้นให้คนส่วนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงนำไปหมักผม โดยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรหมักผมนี้ เหมาะสำหรับ คนที่มีปัญหาผมแห้งเสียและผมแตกปลายค่ะ

3.ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีส่วนผมของน้ำมันอัลมอนด์

คุณอาจไม่สะดวกในการใช้น้ำมันอัลมอนด์บำรุงผมทุกวัน หรือเมื่อหมักผมแล้วก็ต้องสระล้างน้ำมันออก แต่เพื่อการบำรุงผมอย่างต่อเนื่อง อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันอัลมอนด์ได้เช่นกัน อาทิ

ผลิตภัณฑ์

ซันซิล เนเชอรัล แชมพู ไบโอ แอคทีฟ ฮันนี่ แอนด์ อะโวคาโด แดเมจ รีแพร์ซื้อตอนนี้

ผลิตภัณฑ์

ซันซิล เนเชอรัล คอนดิชันเนอร์ ไบโอ แอคทีฟ ฮันนี่ แอนด์ อะโวคาโด แดเมจ รีแพร์ซื้อตอนนี้

แชมพูและครีมนวดผมสูตรเฉพาะจากซันซิลเนเชอรัล ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำผึ้งและอัลมอนด์ออยล์ และเป็นสูตรที่ช่วยฟื้นบำรุงผมอย่างล้ำลึก พร้อมคืนความชุ่มชื้นและชีวิตชีวาให้เส้นผม เพื่อให้ผมดูสุขภาพดี ไม่เปราะขาดได้ง่ายค่ะ

ควรเน้นใช้แชมพูและครีมนวดคู่กัน เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน โดยเลือกใช้สูตรน้ำมันอัลมอนต์และน้ำผึ้ง เพราะมีวิตามินสูงช่วยฟื้นบำรุงให้เส้นผมแข็งแรงสวย ไม่เปราะขาดง่าย

นอกจากนั้นแล้ว หลังการสระผม เรายังสามารถบำรุงอย่างต่อเนื่องได้ตลอดวันด้วย ซันซิล เนเชอรัล อัลมอนด์ แอนด์ ฮันนี่ เซรั่ม​ ที่มีสวนประกอบชองน้ำผึ้งจากฝรั่งเศส และอัลมอนด์ออยล์จากแคลิฟอร์เนีย ที่ช่วยบำรุงผมอย่างล้ำลึก ให้ผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู และเนื้อเซรั่มยังมีความบางเบา จึงไม่เหนียวเหนอะหนะและยังมีกลิ่มหอมอ่อนๆ ที่ช่วยให้ผมคุณหอมสดชื่นตลอดวันด้วยค่ะ

รู้ประโยชน์ของอัลมอนด์และน้ำมันอัลมอนด์ในการบำรุงผมไปแล้ว ใครที่กำลังมีปัญหาผมแห้งเสียแตกปลาย ลองมองหาน้ำมันอัลมอนด์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันอัลมอนด์มาลองใช้กันดูนะคะ หากใช้อย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง จะช่วยเปลี่ยนผมแห้งเสียให้นุ่มสวยเรียบลื่นขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ