AllthingsBeauty
allthingsbeauty-logo

เคล็ดลับและแรงบันดาลใจ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเส้นผมของยูนิลีเวอร์

วิธี ขจัด รังแค
วิธี ขจัด รังแค (Credit: Rex by Shutterstock)

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: 6 สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำกับวิธีขจัดรังแค

เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างรังแคและหนังศีรษะแห้งและอื่นๆ

โดย: Waraporn
May 5, 2019

วิธีขจัดรังแค : อะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ>

1. ควรทำ : รู้จักความแตกต่างระหว่างรังแคกับหนังศีรษะแห้ง>

2. ควรทำ : ใช้แชมพูขจัดรังแคอย่างสม่ำเสมอ>

3. ควรทำ : ลองวิธีธรรมชาติดูบ้าง>

4. ไม่ควรทำ : คิดว่ารังแคเป็นโรคติดต่อ>

5. ไม่ควรทำ : เกาหนังศีรษะ>

6. ไม่ควรทำ : ปล่อยให้ผมเปียกชื้น>


การมีสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะหรือแม้แต่บนเสื้อผ้า ย่อมทำลายความมั่นใจของเราไปไม่น้อย ยังไม่รวมถึงความรู้สึกแย่ๆ จากอาการหนังศีรษะแห้งและอาการคันที่จะตามมาด้วยอีก ซึ่งหากใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่และกำลังหาวิธีขจัดรังแคให้หมดไป ซึ่งคุณอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีจัดการกับปัญหารังแคมากมาย ซึ่งได้ผลบ้าง หรือไม่ได้ผลบ้าง เพราะหลายๆ วิธีเป็นเพียงความเชื่อต่อๆ กันมา่

All Things Beauty จึงได้รวบรวมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของยูนิลีเวอร์และเคลียร์ ถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำที่จะช่วยแก้ไขปัญหารังแคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และคืนความมั่นใจ ทำให้คุณได้กลับมารู้สึกดีอีกครั้ง

วิธีขจัดรังแค : อะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ

1. ควรทำ : รู้จักความแตกต่างระหว่างรังแคกับหนังศีรษะแห้ง

เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องรู้ถึงความแตกต่างระหว่างรังแคกับหนังศีรษะแห้ง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการสังเกตความแตกต่างก็คือ ถ้าเป็นหนังศีรษะแห้ง สะเก็ดสีขาวที่หลุดลอกออกจากหนังศีรษะจะมีขนาดเล็ก แต่ถ้าเป็นรังแค สะเก็ดจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าและจะไม่ค่อยร่วงหล่นออกมาจากหนังศีรษะได้ง่าย

2. ควรทำ : ใช้แชมพูขจัดรังแคอย่างสม่ำเสมอ

เพราะรังแคไม่สามารถหายไปได้เอง ซึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขจัดรังแค และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก ก็คือการใช้แชมพูขจัดรังแคนั่นเอง

แชมพูขจัดรังแคเป็นแชมพูสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมสำคัญ ที่จะช่วยจัดการกับสาเหตุและสัญญาณของรังแคในรูปแบบต่างๆ ตัวอย่างเช่น เคลียร์ ไอซ์คูล เมนทอล เป็นแชมพูที่มีส่วนผสมจากไลม์และเมนทอล ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกิน พร้อมมอบความเย็นสบายทันทีที่ใช้และให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดวัน

ในขณะที่ เคลียร์ แอนตี้แฮร์ฟอล ก็มีส่วนผสมของรากขิง ที่จะช่วยลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม และคุณสมบัติการต้านจุลินทรีย์ของขิงก็จะช่วยควบคุมดูแลหนังศีรษะไม่ให้เกิดรังแค ด้วย

จะเห็นได้ว่าแชมพูทั้ง 2 สูตรนี้ ถึงแม้จะมีส่วนผสมพิเศษที่ต่างกัน แต่ก็ล้วนมีประสิทธิภาพในการขจัดรังแคเช่นเดียวกัน

3. ควรทำ : ลองวิธีธรรมชาติดูบ้าง

การใช้วิธีธรรมชาติ ก็สามารถขจัดรังแคได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ปัญหารังแคก็จะหายไปได้ในที่สุด ลองเอาผลิตภัณฑ์ที่หาได้ง่ายๆ มาใช้ อย่าง น้ำส้มสายชูจากแอปเปิลไซเดอร์, น้ำมันทีทรี และน้ำมันมะพร้าว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีทั้งวิตามินและมีคุณสมบัติต้านเชื้อรา รวมถึงต่อต้านเชื้อแบคทีเรียด้วย จึงช่วยดูแลหนังศีรษะที่แห้งและลดการเกิดเชื้อรามาลาสซีเซีย (Malasezzia) ที่เป็นสาเหตุของการเกิดรังแค

4. ไม่ควรทำ : คิดว่ารังแคเป็นโรคติดต่อ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับรังแคก็คือ มันสามารถติดต่อกันได้ โดยความเข้าใจนี้มีสาเหตุมาจากความจริงที่ว่ารังแคเกิดจากเชื้อราที่เรียกว่า มาลาสซีเซีย (Malasezzia) ซึ่งคนก็มักจะเข้าใจผิดว่ามันแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เชื้อราชนิดนี้พบได้บนหนังศีรษะของทุกคนอยู่แล้วต่างหาก

มาลาสซีเซีย (Malasezzia) เป็นส่วนหนึ่งของผิวบนหนังศีรษะอยู่แล้วและไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อใดที่เกราะป้องกันตามธรรมชาติของหนังศีรษะอ่อนแอลง เชื้อราชนิดนี้ก็จะกลายเป็นรังแคในที่สุด

5. ไม่ควรทำ : เกาหนังศีรษะ

เมื่อคุณมีอาการคันหนังศีรษะ ก็คงอดไม่ได้ที่จะใช้เล็บหรือแปรงมาเกาหัว แต่การเกานั้นจะยิ่งทำให้อะไรๆ แย่ลง เพราะอาจทำให้หนังศีรษะถลอก เป็นแผล และอักเสบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่สระผม วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับอาการคันก็คือ การใช้มือนวดหนังศีรษะเบาๆ ขณะลงแชมพูแทน วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการคันและช่วยให้แชมพูได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

6. ไม่ควรทำ : ปล่อยให้ผมเปียกชื้น

หากคุณมีชีวิตที่เร่งรีบ และการทำให้ผมแห้งทันทีหลังสระผมเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก การปล่อยให้ผมแห้งเองก็อาจเป็นวิธีที่ประหยัดเวลาดี แต่การทำเช่นนี้อาจหมายถึงข่าวร้ายของหนังศีรษะและเส้นผม เพราะผมที่เปียกนั้นอ่อนแอและเปราะขาดได้ง่ายกว่าผมปกติ อีกทั้งเหงื่อและความชื้นที่สะสมอยู่บนหนังศีรษะ ก็ยังจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการคันและทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้อีกด้วย

ตรงกันข้ามกับความเชื่อยอดนิยมที่ว่า การใช้ไดร์เป่าผมดีกว่าการเป่าให้ผมแห้งตามธรรมชาติ เพียงแต่จะต้องใช้ความร้อนในระดับต่ำ และถือไว้ในระยะห่างที่ปลอดภัย (ประมาณ 6 นิ้ว) จากเส้นผม เพื่อที่ไดร์เป่าผมจะได้ไม่ทำให้หนังศีรษะของเราแห้ง

ตอนนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าอะไรควร หรือไม่ควรทำสำหรับการต่อสู้กับปัญหารังแคแล้ว ซึ่งคุณก็จะพบว่าการขจัดสะเก็ดบนหนังศีรษะนั้นง่ายดายเพียงใด และอีกเช่นเคยก็คือการเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคอย่าง เคลียร์ คอมพลีท ซอฟท์แคร์ ด้วย เพื่อดูแลหนังศีรษะและเส้นผมของคุณให้มีสุขภาพดี

แชร์
แฟชั่นสีผม

เทรนด์ทรงผม

My Good Hair Day | #JUNE19 แฟชั่นสีผม สวย แซ่บ อินเทรนด์
Hairstyle Recommended by All Things Beauty – Part 3

เคล็ดลับและคำแนะนำของเรา