ย้อมผมสีน้ำเงินอย่างไร ให้สวยดูดี มีเสน่ห์น่าค้นหา
คอลเล็กชั่นผมสีน้ำเงินสวยๆ ที่คุณทำได้ตลอดปี 2023
สีน้ำเงินเป็นสีที่ดูโดดเด่น แปลกตา ให้อารมณ์ความรู้สึกที่เท่ น่าค้นหา แต่ก็ดูหรูหราไปพร้อมกัน ดูคนดังอย่าง Billie Eilish และ Cardi B ก็ยังทำผมสีนี้ด้วยเช่นกัน
สาว ๆ หลายคนที่ไม่ยอมพลาดเทรนด์สีผมสวย วันนี้ All Things Beauty เลยมีไอเดียย้อมผมสีน้ำเงินหลากหลายเฉดมาฝากกันค่ะ
ผมสีน้ำเงิน Classic Blue
ผมสีน้ำเงิน (Classic Blue)
Classic Blue เป็นโทนสีน้ำเงินเข้ม สีคราม หรือ สีกรม ถ้าใครชอบแนวเข้มมาก ๆ ก็ย้อมเป็นสีน้ำเงินดำก็ได้ ที่จะเห็นสีน้ำเงินเหลือบอยู่บนพื้นผมดำ และจะเห็นสีน้ำเงินได้ชัดเมื่อโดนแสงแดด หรือ แสงไฟ
แต่ถ้าอยากได้ผมสีน้ำเงินที่ชัดมากขึ้น ก็แค่ลงสีน้ำเงินทับไปเลย หากมีพื้นผมสีอ่อนอยู่แล้ว เพราะสีน้ำเงินจะย้อมติดได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องฟอกผมเลย
Editor’s tip: ในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังทำสี ควรงดสระผม เพื่อให้สีผมสวยอยู่ได้นานขึ้น แต่สำหรับคนที่ผมหรือหนังศีรษะมันง่าย การไม่สระผมหลายๆ วัน อาจเกิดอาการคันและผมอับชื้น แนะนำว่าให้ใช้ดรายแชมพูหรือสเปรย์คุมมัน ช่วยทำความสะอาดไปก่อน ซึ่งดรายแชมพู จะช่วยดูดซับความมันและลดกลิ่นอับของเส้นผม คล้ายกับการสระผมด้วยแชมพูตามปกติ
นอกจากนั้น ดรายแชมพูยังช่วยให้สีผมของคุณอยู่ได้นานขึ้น เพราะทุกครั้งที่สระผมด้วยน้ำ จะทำให้สีผมเฟดลงไปเรื่อยๆ แต่ดรายแชมพูไม่ได้ชะล้างสีผมออกไป เพียงดูดซับความมันและขจัดกลิ่นอับ คุณจึงไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน หรือสระผมน้อยลงกว่าปกติ สีผมจึงอยู่ได้นานขึ้น
ขอแนะนำให้ลอง ซันซิล ออยล์ คิลเลอร์ ฟราแกรนซ์ บูสเตอร์ ดรายแชมพู ที่ช่วยขจัดความมันบนเส้นผมในทันที ช่วยให้ผมสะอาด สดชื่น โดยไม่ทิ้งคราบขาวบนหนังศีรษะ เพียงฉีดที่โคนผมเมื่อต้องการรีเฟรชระหว่างวัน ทั้งยังให้กลิ่นหอมสดชื่นติดผมยาวนาน
ผมสีน้ำเงินหม่น (Blue Grey / Ash Blue)
ผมสีน้ำเงินหม่น เป็นอีกสีผมสวยมีเสน่ห์ที่สาว ๆ หลายคนชอบมาก โดยผมสีนี้พื้นผมจะเป็นสีเทา แต่ไม่ต้องกลัวว่าทำผมสีนี้แล้วจะเหมือนผมหงอกแต่อย่างใด เพราะจะเหลือบให้เห็นสีน้ำเงินอยู่ ทำให้สีผมดูเย็น สบายตา ไม่ดูจัดจ้านจนเกินไป
ไอซี่บลู (Cool-Toned Icy Blue)
ถ้าใครชอบสีโทนสว่าง ๆ ก็ต้องลองสีโทนเย็น ๆ อย่าง ไอซี่บลู โดยสีนี้มองแล้วดูเย็นสมชื่อ มีความเป็นน้ำเงินพาสเทล ดูแฟชั่นและวัยรุ่น ถ้าใครชอบไอดอลสายเกา ก็ต้องลองสีน้ำเงินเฉดนี้เลยค่ะ
ผมสีน้ำเงินเดนิม (Denim Blue)
สีน้ำเงินเดนิมคือสียีนส์เข้ม ที่จัดอยู่ในหมวดคลาสสิคเช่นกัน โดยความพิเศษของผมสีนี้อยู่ที่ เป็นเฉดสีน้ำเงินที่แอบหม่นเทาอยู่หน่อย ๆ มองดูเย็นละมุนตา แต่ก็ดูคมเข้มด้วยเช่นกัน
Editor’s tip: ผมสีนี้จะยิ่งดูสวยมากถ้าเพิ่มความเงางามให้เส้นผมอีกหน่อย ด้วยการลูบไล้ โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ นูทริ-เซรั่ม ลงบนเส้นผม เพื่อให้เซรั่มเคลือบเส้นผมให้ขึ้นเงา ซึ่งจะยิ่งทำให้ผมสีน้ำเงินเปล่งประกายสวยมากยิ่งขึ้น
ผมสีน้ำเงินเมทาลิค (Metallic Blue)
สีน้ำเงินเฉดนี้จะดูล้ำ ๆ หน่อย ให้ความรู้สึกเหมือนมาจากโลกอนาคต เพราะใส่ความเงาเมทาลิคของสีเงินลงไปด้วย จึงได้ความเงาวับวาวเป็นพิเศษ ยิ่งเมื่ออยู่กับผมสั้นแนวเท่ ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งได้เป็นลุคเปรี้ยวแซ่บที่ดูทันสมัยเลยจริง ๆ
ผมสีน้ำเงินนีออน (Neon Blue)
ผมสีน้ำเงินเฉดนี้รับรองว่าโดนใจวัยรุ่นแน่นอน เพราะเป็นสีน้ำเงินเฉดสว่างขั้นสุด และสะท้อนแสงวิบวับแบบแสงนีออน แถมความพีคยังอยู่ที่เวลาอยู่ในที่มืด ผมสีนี้ก็ยังเรืองแสงได้อีกด้วย
Editor’s tip: แน่นอนว่าผมสีนี้จะต้องฟอกผมแน่นอน ฉะนั้นหลังย้อมอย่าลืมใช้แชมพูม่วง อย่าง เทรซาเม่ คัลเลอร์ เรเดียนซ์ แอนด์ รีแพร์ สำหรับผมกัดสีหรือทำสีอ่อน เพื่อล็อคสีผมให้สวยสดชัดยาวนาน และฟื้นบำรุงผมเสียจากการฟอกสีด้วย
น้ำเงินมิดไนท์ (Midnight Blue)
เฉดน้ำเงินเข้มเหมือนท้องฟ้าในยามค่ำคืน สร้างบรรยากาศให้คุณสาวๆ ดูสวยลึกลับชวนค้นหา
เนวีบลู (Navy Blue)
สีน้ำเงินแบบเนวี บลู หรือสีน้ำเงินกรมท่า เป็นเฉดสีน้ำเงินเข้ม จะออกไปทางโทนสีดำหรือสีเทาค่อนข้างมาก สีโทนนี้ให้ความรู้สึกที่เคร่งขรึมและมีความเท่อยู่ในตัว
น้ำเงินอิเลคทริค (Electric Blue)
เฉดสีน้ำเงินสว่าง คล้ายกับสีนีออนและเมทาลิค แต่เข้มกว่า ให้ความรู้สึกล้ำสมัย มีเสน่ห์ชวนค้นหา และดึงดูดสายตาเป็นอย่างดี เหมาะกับสาวมั่นที่อยากแสดงความเป็นตัวของตัวเอง
Editor’s Tip: สำหรับผมเฉดสีนี้ ต้องทำการฟอกสีผมให้อ่อนลงก่อนจะย้อมสีผม เพื่อให้ได้สีที่เด่นชัดเจน ดังนั้น ผมจึงมีโอกาสเสียได้ง่าย เพราะต้องผ่านการทำเคมีหลายครั้ง การบำรุงผมหลังทำสีจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกเหนือจากแชมพูม่วงและครีมบำรุงผมแล้ว แนะนำให้ใช้เซรั่มบำรุงผมร่วมด้วย เพราะเซรั่มไม่ต้องล้างออกเหมือนครีมบำรุงผม จึงบำรุงเส้นผมได้ล้ำลึกและยาวนานกว่า โดยใช้หลังสระผม หรือก่อนเป่าไดร์ จะช่วยป้องกันเส้นผมจากการสูญเสียความชุ่มชื้นเพราะอุปกรณ์ทำความร้อนอีกด้วย
เราขอแนะนำ เทรซาเม่ เซรั่ม คัลเลอร์ เรเดียนซ์ แอนด์ รีแพร์ เซรั่มเข้มข้น แต่ไม่เหนอะหนะ เป็นเซรั่มเนื้อใส บางเบา มีกลิ่นหอม ใช้ชโลมบนผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย ช่วยฟื้นบำรุงอย่างล้ำลึกให้กับเส้นผมที่เสียจากการทำสีและกัดสี สร้างเกราะป้องกันไม่ให้ผมเสียถึงแกนใน ทั้งยัง ช่วยให้สีผมสวยได้ยาวนานขึ้น
สีน้ำเงินออมเบร (Blue Ombre)
ออมเบรเป็นเทคนิคการไล่สีผม โดยช่วงปลายผมจะเป็นโทนสีอ่อนกว่าด้านบน เพื่อให้ดูมีมิติและน่าสนใจมากขึ้น สามารถทำได้กับผมสีน้ำเงินทุกเฉดสี สร้างเสน่ห์และความต่างให้ทรงผมคุณโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
น้ำเงินหลากเฉด (Multicoloured Blue)
สำหรับใครที่ไม่มั่นใจหรือไม่อยากเลือกว่าสีน้ำเงินเฉดไหนที่เหมาะกับตัวเอง จะลองเลือกเป็นทำสีผมแบบผสมหลากหลายเฉดไปเลย ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่จะใช้เทคนิคการทำไฮไลต์เป็นช่อเล็กๆ แล้วย้อมสีไฮไลต์หลากเฉด โดยยังคงพื้นผมดำหรือผมสีเข้มอยู่ ซึ่งไฮไลต์เหล่านี้จะช่วยสร้างมิติให้ทรงผมและทำให้ได้โทนสีที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
สีน้ำเงินเข้ม (Royal Blue)
(credit: ig @mars_h_s_u_)
เป็นเฉดแม่สี น้ำเงินเข้ม ในแถบสี เมื่อเป็นสีผมให้เอฟเฟกของความเข้มลุ่มลึกและสง่างาม เฉดน้ำเงิน Royal Blue เป็นอีกหนึ่งเฉดสีผม ที่ครีมเปลี่ยนสีผมเกือบทุกยี่ห้อต้องดี ตีคู่มากับโทนสีม่วงเข้มเลยทีเดียว
ผมสีน้ำเงินเฉดเทอร์ควอยซ์(Turquoise)
(credit: ig @ostrimakovepanenky)
สีเทอร์ควอยซ์ที่เป็นสีฟ้าเหลือบเขียว เหมือนสีน้ำทะเล ที่มีประกายเขียวใสๆ อยู่ด้วย เฉดนี้เหมาะมากๆกับผมดัดลอนหรือม้วนลอนเป็นบีชเวฟ จังหวะผมพลิ้วสลวยเหมือนผิวน้ำทะเลกระเพื่อมไหว
เบบี้ บลู ( Baby Blue)
(credit: ig @yessy_ayalagzz)
สีน้ำเงินออกฟ้าอ่อนหรือสีเบบี้บลู เป็นสีที่มีความวินเทจจากการเป็นสีซิกเนเจอร์ของแบรนด์รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด สำหรับสีผม เฉดเบบี้บลูเป็นโทนสีพาสเทลหม่น ที่ไม่จัดจ้านแต่สวยดึงดูดสายตา สีผมที่เป็นสีเทาหม่นหรือสีอ่อนในประกายหม่นทั้งหลายสามารถเปลี่ยนมาลงเฉดสีเบบี้บลูได้ในขั้นตอนเดียว แต่ถ้าสีผมเดิมเป็นสีเข้มหรือสีโทนร้อนอื่นๆ ก็อาจจะต้องฟอกสีให้ซีดจางเป็นโทนแพลตตินัมหรือเทาประกายหม่นก่อน จึงจะได้เฉดเบบี้บลูดังใจ
เมทาลิคเบบี้บลู (Metallic Baby Blue)
(credit: ig @getcutanddye)
ผมเบสสีเทาเงิน หรือเทาประกายหม่นเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเหลือบฟ้าเบบี้บลูประกายเงิน หรือเมทาลิกเบบี้บลู ก็เป็นอีกเฉดที่น่าลอง หลังจากเทรนด์ผมสีเทาหรือ สีขี้เถ้า ทำมาสักพักอยากเปลี่ยนลุคให้มีสีสันขึ้น เพิ่มประกายวิบวับให้ลุคกลอสซี่หรูหราขึ้นมาได้
น้ำเงินพาสเทล หรือฟ้าอ่อน (Light Pastel Blue Hair)
ผมสีบลูพาสเทล(credit: ig @vanity_salon_houston)
สีไลท์พาสเทลบลู (credit: ig @luci.livin)
สีโทนพาสเทลให้ความรู้สึกละมุนละไมและอ่อนหวานอยู่แล้ว และสีผมสีน้ำเงินที่เป็นเฉดฟ้าอ่อน หรือ Light Pastel Blue เข้ากับทุกสีผิว แต่สีนี้ต้องฟอกสีผมให้เป็นสีซีดเกือบขาวหรือผมเดิมเป็นสีอ่อนโทนบลอนด์หรือเทา จึงจะได้สีผมไลท์บลูพาสเทล ถ้าผมสุขภาพดีแข็งแรงก็ทำได้ทันที แม้ขั้นตอนจะยาวนานทั้งโกรก ฟอกและย้อม จึงจะได้เฉดนี้ แต่ถ้าผมยังอ่อนแออย่าลืมบำรุงผมให้แข็งแรง หรือจะเริ่มทำสีจากโทนน้ำตาลอ่อนหรือสีอ่อนลงกว่าสีผมธรรมชาติไปก่อน
ผมดำไฮไลต์เฉดน้ำเงิน (Dark and Blue Highlight Hair)
(credit: ig @solanohairstyles)
(credit: ig @salonmillennium)
ไฮไลต์เฉดน้ำเงินอย่าง ดีพเนวีบลู (น้ำเงินกรมท่าเข้ม) หรือเดนิมบลู (น้ำเงินกรมท่าอ่อน) และพาสเทลบลู (ฟ้าอ่อน) ฟ้าเหลือบเขียว (เทอร์ควอยซ์) เติมสีสันให้กับผมดำ เป็นเฉดที่เข้ากันได้ดี ให้ฟีลเหมือนมองลงไปในน้ำทะเลลึกที่ดวงตาคนปกติมองเห็นสีฟ้าน้ำเงินจนถึงสีดำ ลุคนี้มีเสน่ห์อย่างประหลาด ดูน่าค้นหา
เฉดน้ำเงินเหลือบเขียวไข่กา (Teal Blue )
(credit: ig @morganrebeccabeauty)
ผมสีนี้เป็นเฉดที่น่าลองสำหรับคนที่เริ่มเบื่อผมสีแพลตตินัมบลอนด์หรือเทาแพลตตินัม เลือกเฉดสีเขียวไข่กาสด (Vibrant Teal) เติมสีเดิมจะได้โทนสีฟ้าน้ำเงินเหลือบเขียวไข่กา มีคำแนะนำจากช่างทำสีผมมือโปรว่าการทำสีมักจะให้ผลที่เป็นสีเข้มเกินเบอร์เพราะสภาพเส้นผมและสีผมเดิม โดยเฉพาะการทำสีน้ำเงิน เสี่ยงที่จะสีเพี้ยนออกเขียวมากกว่าเฉดฟ้าน้ำเงิน สำหรับคนที่ผมสีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลอ่อน ตามปกติต้องฟอกสีผมจนสีอ่อนซีดมากๆ ลอง L’Oréal Paris Colorista Semi-Permanent Hair Color เฉด Teal เส้นผมจะดูดสีน้ำเงินเหลือบเขียวไข่กาง่ายขึ้น ไม่ต้องฟอกสีผมหลายขั้นตอนมากนัก
เป็นยังไงกันบ้างคะสาว ๆ กับไอเดียผมสีน้ำเงิน ที่เรายกขบวนมาให้ดูกันหลายเฉดเลยทีเดียว ใครรักชอบสีน้ำเงินเฉดไหน ก็หยิบเอาไอเดียข้างต้น ไปเก็ทสีแซ่บ ๆ ตามกันได้เลยนะคะ
