48 ไอเดีย เฉดผมสีม่วง สวยตามเทรนด์ สดใส
อัปเดตเทรนด์ ผมสีม่วง สีสวยมาแรงประจำปีนี้
สีผมโทนม่วงนั้น เป็นสีที่มีความโดดเด่น สื่อถึงความมีสไตล์ สะท้อนถึงความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ และการกล้าแสดงออกอย่างเป็นตัวของตัวเอง เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการเปลี่ยนลุคให้ดูโฉบเฉี่ยว ดึงเอาความมั่นใจหรือสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง และยังดูเป็นคนขี้เล่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่และลึกลับนิดๆ เช่นกัน
ศิลปินที่โด่งดังหลายๆ คน เช่น Prince, David Bowie หรือ Jimi Hendrix ต่างก็เคยนำเอาสีม่วงมาใช้ในการพรีเซนต์ผลงาน การแต่งตัว รวมถึงสีผมมาแล้ว สะท้อนให้เห็นความคิดสร้างสรรค์และบุคลิกภาพที่โดดเด่นจนกลายเป็นตำนานแห่งยุคสมัย
สีผมโทนม่วง มีหลายเฉด ซึ่งคุณสามารถเลือกเฉดสีที่เข้ากับสีผมของตัวเอง เช่น สีผมม่วงน้ำเงิน เหมาะกับสาวผิวขาวจัด แต่ถ้าคุณผิวขาวเหลืองหรือผิวคล้ำ อาจเลือกโทนสีม่วงเข้ม อย่าง Eggplant (สีมะเขือม่วง) หรือสีม่วง พาสเทล นุ่มๆ ซึ่งเป็นเฉดสีที่สาวผิวเหลือง ผิวแทน ทำออกมาแล้วดูสวยแบบไม่ต้องกลัวหมองทีเดียวค่ะ
ปัจจัยอีกอย่างที่จะมีผลต่อการทำสีผม ก็คือ สีพื้นเดิมและสภาพเส้นผมของคุณด้วยค่ะ หากพื้นผมสีเข้ม ผมเส้นใหญ่ ช่างอาจจะต้องฟอกสีผมของคุณให้อ่อนลงก่อน รวมถึง ผมที่ผ่านการทำสีอื่นๆ ก็มีผลให้สีม่วงที่ทับลงไป ออกมาเป็นอีกเฉดหนึ่งได้ แต่แน่นอนว่า เรายังสามารถสนุกกับผมสีม่วงได้อีกมากมาย ซึ่ง All Things Beauty ก็ได้นำเอาผมสีม่วงหลากเฉดมาแนะนำ ให้คุณได้เลือกสวยได้ตามสไตล์และความชอบกันเลยค่ะ
ผมสีม่วง สวยหลากเฉด
ผมสีม่วงอมน้ำเงิน (Ultra Violet)
ผมสีม่วงอมน้ำเงิน หรืออัลตร้า ไวโอเล็ตเป็นสีที่สื่อถึงการมีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ การใช้จินตนาการ ความฉลาด การมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคต และสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งเหมาะมากสำหรับนักออกแบบและแฟชั่นนิสต้าทั้งหลาย เพราะป็นสีที่โดดเด่น แบบใครเห็นก็ต้องเหลียวมองค่ะ
นอกจากนั้น ยังเข้ากันได้ดีกับสาวๆ ที่มีผิวขาว เพราะจะช่วยขับผิวให้ดูผ่องมากยิ่งขึ้น แถมยังเหมาะสำหรับใครที่อยากได้สีผมชัดๆ เข้มๆ เพราะผมสีม่วงเฉดนี้เวลาที่อยู่ในที่ร่มจะดูคล้ายๆ กับสีดำหรือสีน้ำเงินเข้ม แต่ถ้าเวลาออกแดดจะเห็นสีผมประกายม่วงเข้มแบบชัดเจนเลยค่ะ
Editor’s choices : กว่าจะได้ผมสีม่วงสดใสน่ามองแบบนี้ เส้นผมต้องผ่านการกัดสีและทำเคมีมาอย่างหนัก ดังนั้น หลังทำสี เราจึงต้องดูแลเส้นผมให้มากเป็นพิเศษ การหมักผมด้วยทรีตเมนต์หรือมาส์กผมอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกหลังทำสีผม โดยหลังสระผม ให้ชโลมมาส์กลงบนผมเปียก โดยเน้นจากกลางจรดปลายผม ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก (จะใช้ร่วมกับครีมนวดผม หรือใช้แทนก็ได้ค่ะ) จะช่วยบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง และมีส่วนช่วยให้สีผมติดทนนานขึ้น ทำให้เส้นผมสุขภาพดีและเงางาม ซึ่งความเงานี้ จะยิ่งช่วยให้สีผมอัลตร้าไวโอเล็ตดูดีขึ้นอีกสเต็ปด้วยค่ะ
ผมสีม่วงลาเวนเดอร์ (Lavender)
สีม่วงอ่อนอมชมพูเหมือนสีของดอกลาเวนเดอร์ เป็นสีที่สื่อถึงความอ่อนหวานและความเป็นผู้หญิง คล้ายสีชมพู แต่สีนี้จะให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ และความมั่นใจมากกว่าสีชมพูค่ะ
ผมสีม่วงไลแลค (Lilac)
เป็นเฉดสีม่วงที่คล้ายกับลาเวนเดอร์ แต่จะออกโทนสีม่วงจาง และมีความชมพูมากกว่า ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อทำสีผมม่วงลาเวนเดอร์ ม่วงอเมทิสต์ หรือม่วงพลัม เมื่อสระผมแล้วสีผมเริ่มจางลง จะกลายเป็นโทนม่วงไลแลค ที่ให้อารมณ์หวานละมุนมากขึ้น
ผมสีม่วงอเมทิสต์ (Amethyst)
ผมสีม่วงอ่อนอมชมพูนิดๆ เป็นสีม่วงเฉดอเมทิสต์ ซึ่งทำแล้วให้ลุคหวานซนปนน่ารัก แถมสีนี้ก็ไม่ได้ดูแรงมากจนเกินไป และสาเหตุที่เรียกผมสีม่วงเฉดนี้ว่า “อเมทิสต์ (Amethyst)” ก็เพราะว่าเป็นเฉดสีที่เหมือนกับสีของอเมทิสต์ซึ่งเป็นชื่อของอัญมณีสีม่วงสด หรือพลอยสีม่วงนั่นเองค่ะ
สีม่วงโมวฟ (Mauve)
สีม่วงโมวฟ เป็นเฉดสีม่วงอมชมพูที่ออกโทนนู้ด ดูตุ่นๆ (คล้ายสีกะปิแต่ซีดกว่า) เป็นสีม่วงที่ดูซอฟต์ แต่แฝงความเซ็กซี่อยู่เล็กๆ
สีดีพเพอร์เพิล (Deep Purple)
เป็นเฉดสีม่วงแดงเข้มจนเกือบดำ จึงดูไม่แรงเท่ากับเฉดสีม่วงอื่นๆ แต่ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ ลึกลับน่าค้นหาแบบผู้ใหญ่ อาจเติมกิมมิกให้เส้นผมด้วยการทำสีม่วงสว่างเป็นไฮไลต์ หรือใช้เทคนิคบาลายาจ เพื่อให้ทรงผมของคุณดูมีมิติมากขึ้น
สีม่วงอีเล็คทริก (Electric Violet)
สีม่วงสุดแสบสันต์ เป็นเฉดสีที่ดูเหมือนไฟนีออนสีม่วง และบางครั้งอาจดูคล้ายสวมวิกมากกว่าผมจริง แน่นอนว่าเป็นสีที่เหมาะกับสาวแซ่บ ผู้รักความโดดเด่น และไม่ต้องการทำอะไรซ้ำๆ กับใคร
สีม่วงองุ่น (Grape)
สีม่วงเข้มเหมือนสีผลองุ่นดำ ให้ความรู้สึกเท่และลึกลับ เป็นเฉดสีที่เข้ากับสาวผิวโทนขาวเหลือง ผิวสองสีและผิวคล้ำได้ดีค่ะ
ผมสีม่วงพาสเทล (Pastel Purple)
ผมสีม่วงอ่อนๆ โทนพาสเทล เป็นเฉดผมสีม่วงที่สาวๆ หลายคนหลงรัก เพราะเป็นสีที่สวยละมุน ทำแล้วดูน่ารักสดใส แต่ด้วยความที่เฉดผมสีม่วงพาสเทลค่อนข้างจะมีสีที่อ่อน ดังนั้นสาวๆ คนไหนที่มีพื้นผมสีเข้มอาจจะต้องกัดสีผมให้สว่างก่อน แล้วค่อยลงทับด้วยสีม่วงอีกทีค่ะ แต่ถ้าหากใครกลัวว่าผมสีม่วงพาสเทลแบบนี้จะดูอ่อนเกินไป ก็สามารถทำไฮไลต์ไล่สีม่วงเข้มกับสีม่วงอ่อน เพื่อให้สีผมดูเข้มสวยอย่างมีมิติค่ะ
ผมสีม่วงหม่น (Smoky Purple)
ผมสีม่วงหม่น หรือ Smoky purple ถือเป็นอีกหนึ่งสีที่สาวๆ ทั่วโลกเทใจให้มากที่สุด โดยผมสีม่วงเฉดนี้จะออกสีม่วงหม่นๆ ปนเทานิดๆ ให้ลุคที่ดูสวยแพง แต่ไม่ดูแรงจนเกินไป เวลาที่อยู่ในร่มก็จะเห็นเป็นผมสีเทาที่มีประกายม่วงสวยงาม แต่หากกระทบกับแสงแดดจ้าๆ ก็จะเห็นเป็นสีม่วงชัดเจนที่ดูสดใสค่ะ
Editor’s tip : หากใครที่อยากให้ผมสีม่วงหม่นที่ทำมาแล้วติดทนนาน แนะนำให้ใช้แชมพูและครีมบำรุงผมสูตรสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ (แนะนำ เทรซาเม่ แชมพู คัลเลอร์ เรเดียนซ์ แอนด์ รีแพร์ สำหรับผมทำสี) หรือจะสลับกับการใช้ดรายแชมพู ก็ได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยชะลอทำให้สีผมสวยๆ อยู่กับเราไปได้นานขึ้นแล้วค่ะ
ผมสีม่วงกล้วยไม้ (Orchid)
ผมสีม่วงกล้วยไม้ เป็นผมสีม่วงเฉด Radiant Orchid ซึ่งเป็นสีม่วงสดใสแบบดอกกล้วยไม้นั่นเองค่ะ ทั้งนี้เป็นเฉดสีที่อาจจะมีสีน้ำเงินอ่อนๆ ปนมาด้วยนิดหน่อย ซึ่งเมื่อรวมกับสีม่วงแล้วดูสวยกลมกลืน ให้ความรู้สึกน่าค้นหา ล้ำสมัย และสื่อความหมายถึงความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ
ผมสีม่วงลูกพลัม (Plum)
ผมสีม่วงที่อมแดงนิดๆ เป็นผมสีม่วงเฉดเดียวกับสีของลูกพลัม ทำแล้วจะช่วยอัพลุคเป็นสาวลึกลับมีคาแร็คเตอร์น่าค้นหา บอกเลยว่าเป็นสียอดฮิตที่คนดังหลายคนก็ยังนิยมทำกัน ไม่ว่าจะเป็น Megan Nicole และ Andrea Russett ก็ยังทำสีนี้กันเลยนะคะ
ผลิตภัณฑ์
โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ ทรีทเม้นท์ มาสก์Editor’s tip : ผมที่ผ่านการทำสี ควรดูแลรักษาและบำรุงเป็นพิเศษ เพราะหากถ้าดูแลไม่ดี ผมก็จะแห้งแตกปลาย และไม่มีความเงางาม การทำทรีตเม้นต์จะช่วยแก้ปัญหาผมเสีย และทำให้ผมทำสีมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลองใช้ โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ ทรีทเม้นท์ มาสก์ มาส์กบำรุงผมที่ช่วยฟื้นบำรุงผมเสียจากการทำสีผม ดัด ย้อม และช่วยปกป้องผมไม่ให้เปราะขาดได้ถึง 10 เท่า* เพื่อฟื้นฟูผมเสียให้กลับมาสวยอีกครั้ง
*ทดสอบในห้องปฎิบัติการ เทียบกับแชมพูที่ไม่มีสารคอนดิชันเนอร์
ผมสีม่วงเทา (Ash Lavender)
สีม่วงเทา หรือสีแอชลาเวนเดอร์ เป็นเฉดสีที่ผสมเอาสีเทาควันบุหรี่ เข้ากับสีม่วงลาเวนเดอร์อ่อนๆ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งทำสีเทาควันบุหรี่ หรือรักพี่เสียดายน้องเลือกไม่ถูกว่าอยากได้โทนเทาหรือม่วงดี เฉดสีนี้จึงเป็นสีซอฟต์ๆ ที่ผสานเข้ากันอย่างลงตัวค่ะ
เพิ่มลูกเล่นให้กับสีผมของคุณ
ตอนนี้การเปลี่ยนสีผมเดี่ยวๆ อาจจะดูธรรมดาไปแล้ว สำหรับสาวๆ ที่อยากให้ทรงผมของคุณดูมีลูกเล่นมากขึ้น สามารถลองเลือกใช้เทคนิคเหล่านี้ดูได้ค่ะ
การทำออมเบร
เติมสีม่วงเพียงช่วงปลายผม โดยยังคงสีดำเอาไว้ ให้อารมณ์เซ็กซี่แบบซอฟต์ๆ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่เคยทำออมเบรสีอื่น จนหลุดไปเกือบหมดแล้วอยากเติมสีเพียงช่วงปลายผม หรืออยากจะลองดูว่า สีม่วงจะเข้ากับเราหรือเปล่า
สาวๆ ที่กัดสีผม หรือทำสีบลอนด์ขาวหรือเทาขาว ลองเติมสีชมพูและม่วงเข้าไปช่วงกลางถึงปลายผม นอกจากจะสวยแปลกตาแล้ว ยังช่วยลดปัญญาเรื่องเฉดสีม่วงขัดกับโทนสีผิวด้วย เพราะมีสีบลอนด์ขาวช่วยเบรคสีลงค่ะ
การทำบาลายาจ หรือไฮไลท์เส้นเล็ก
หากไม่มั่นใจหรือลังเลว่าสีม่วงเฉดไหนจะสวยและเข้ากับเราที่สุด ก็ลองไปเลยหลายๆ สีค่ะ ลองเลือกสีพื้นเป็นม่วงเฉดเข้มสุด สลับกับโทนสีม่วง น้ำเงิน หรือเขียว จะช่วยทำให้ผมของเรามีเท็กซ์เจอร์สีที่น่าสนใจและสวยงาม แต่ตอนทำต้องมั่นใจว่าผมแข็งแรง และควรเผื่อเวลาให้มากพอในการทำสีนะคะ เพราะช่างจะต้องลงสีทีละรอบ จึงอาจให้เวลามากกว่าปกติค่ะ
ผมสีม่วงกับไฮไลท์สีอ่อน เมื่อถักเปียจึงได้เท็กซ์เจอร์ที่สวยงาม ถ้าอยากให้ลุคดูซอฟต์ลง ก็เพียงเปลียนโทนสีจากม่วงเข้ม เป็นม่วงที่อ่อนและสว่างขึ้น เฉดสีแบบนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ผ่านการกัดสีผมหรือทำไฮไลต์มาก่อนหน้านี้แล้ว ก็จะไม่เสียเวลาในขั้นตอนการกัดสีผมให้อ่อนลงค่ะ
เทคนิค ซ่อนสีผม
สำหรับสาวๆ ที่ปกติอาจจะไม่สามารถทำสีผมเด่นๆ ได้ แต่ก็ยังอยากที่จะตามเทรนด์ การทำไฮไลต์สีม่วงอัลตร้า ไวโอเล็ต ซ่อนไว้ได้ผม ก็ช่วยได้ค่ะ
ไฮไลท์สีม่วงบนผมดำ
สำหรับสาวๆ ที่อยากเริ่มต้นเปลี่ยนเฉดสีแบบเบาๆ อาจลองเลือกทำไฮไลท์สีม่วงบนพื้นผมสีดำหรือสีเข้ม ทำเป็นช่อใหญ่ สัก 4-6 ช่อ บริเวณด้านหน้าและด้านข้าง หรือทำไฮไลท์เส้นเล็กกระจายให้ทั่วศีรษะ เพื่อให้ดูซอฟต์ลง ก็สวยเช่นกันค่ะ
ในการทำสีผมครั้งหนึ่ง อาจจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน หรือหลังสระผมประมาณ 10-20 ครั้ง แต่สีผมจะติดทนนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ และเทคนิคที่ใช้ในการทำสี ความถี่ของการสระผม รวมถึงการดูแลผมหลังทำสีด้วยเช่นกันค่ะ
สำหรับโทนผมสีม่วงนี้ ยังมีเฉดสีอีกมากมายที่น่าสนใจ ซึ่งสาวๆ สามารถดูได้ใน Gallery ด้านบนที่เราคัดสรรสีผมสวยๆ มาให้ชมกันอย่างเต็มอิ่มทีเดียวค่ะ
เทรนด์ทรงผม
ทรงผมสวยกับลุคสุดปัง ของเหล่าเซเลปบนเวทีออสการ์ที่ผ่านมา