อัพเดทเทรนด์ผมล่าสุด จาก New York Fashion Week Spring/Summer 2020
พบกับเทรนด์แฟชั่นทรงผมจากนิวยอร์ครันเวย์
หลังจากจบสัปดาห์ New York Fashion Week SS20 ไปหมาดๆ All Things Beauty ก็ไม่รอช้าที่จะมาอัพเดตทรงผมลุคต่างๆ ของเหล่าบรรดาแบรนด์ดังมาฝากกัน ซึ่งทรงผมเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเป็นตัวกำหนดเทรนด์ของปลายปีนี้เท่านั้น แต่จะยังเป็นกระแสไปจนถึงปี 2020 อย่างแน่นอน หากสาวๆ อยากรู้แล้วว่าจะมีทรงไหนติดเทรนด์กันบ้าง ก็ไปติดตามได้เลยค่ะ
เทรนด์ผมล่าสุด จาก New York Fashion Week SS20
Avant Garde
หลายแบรนด์มาพร้อมกับทรงผมหลุดโลกที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ทรงผม หรือสีสันที่เลือกใช้ อย่างเช่น Vfiles ที่มาพร้อม Space ฺBun ที่ผมสองข้างคนละสี
แบรนด์ No Sesso สร้างความน่าสนใจให้ทรงผมเรียบๆ ด้วยการใช้เทคนิคสเตนซิล พ่นสีเป็นลวดลายชื่อแบรนด์ลงบนผมแบบเก๋ๆ ส่วน Jeremy Scott พร้อมกับวิกผมฟู่ฟ่องแสนฉูดฉาดสไตล์พังค์ร็อคยุค 80
Bohemian Rhapsody
Anna Sui พานางแบบขึ้นเวทีทรงผมสไตล์โบฮีเมียน ที่ด้านบนถูกแบ่งเป็นสองด้านและม้วนเป็นบันตรงกลางศีรษะ ส่วนด้านล่างมันเป็นหางม้าหลวมๆ และตีผมช่วงกลางให้พองฟู
Edgy Top
Tom Ford มาพร้อมซิกเนเจอร์เมคอัพ คือ สโมคกี้อายแบบหนักๆ ส่วนทรงผมก็ถูกม้วนหรือหนีบเก็บขึ้นไปด้านบนและตีฟูให้ยุ่งสไตล์สาวพังค์ร็อค
Textured Bubble Updos
Chromat สร้างความตื่นตาให้กับทรงผมบับเบิ้ล ไม่ใช่แค่เพียงทำเป็นบันสองข้าง แต่ยังเพิ่มเท็กซ์เจอร์ฟูฟ่องให้กับผมและทำให้เราละสายตาจากผมทรงนี้ได้ยากจริงๆ
Middle Part
ไม่เพียงทรงผมหลุดโลกหรือล้ำๆ แต่ทรงผมคลาสสิคแบบทรงแสกกลาง ก็ยังคงครองใจแฮร์สไตลิสต์และดีไซเนอร์หลายๆ แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Brandon Maxwell, Tibi หรือ Oscar De La Renta
ทรงผมแสกกลางนี้ อาจจะปล่อยยาวแบบธรรมชาติ ดัดลอนอ่อนๆ แบบบีชเวฟ หรือดัดลอนเมอร์เมดก็ได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ทรงผมแสกกลางจะต้องหวีให้เรียบช่วงบนศีรษะ (กึ่งๆ เว็ทลุค) ลงมาจนถึงช่วงใบหู แล้วจึงปล่อยผมที่เหลือให้สยายเป็นธรรมชาติ สำหรับสาวผมยาวที่กำลังมองหาทรงผมออกงานสวยๆ นี่เป็นอีกสไตล์ที่เหมาะมากทีเดียว
Deep Side Part
ทรงผมแสกข้างลึก เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ยังคงได้รับความนิยมจากหลายแบรนด์ดัง ทั้ง Jason Wu, Longchamp, Michael Kors หรือ Tory Burch แต่ก็มีความแตกต่างกันไปในรายละเอียด
Longchamp นำเสนอลุคเรียบหรู ด้วยทรงผมหวีแสกและหางม้าต่ำ ซึ่งเก็บแบบเรียบเนี๊ยบ เป็นทรงผมที่เหมาะสำหรับการออกงาน เพราะแม้จะดูเรียบๆ แต่ดูแพง และสามารถทำได้ทั้งสาวผมสั้นและผมยาว
ทรงผมแสกข้างและปล่อยยาวแบบ Michael Kors ก็เป็นอีกหนึ่งทรงที่สวยหรูดูดี หรือหากใครอยากให้ดูเรียบร้อยและผมอยู่ทรงมากยิ่งขึ้น อาจเลือกทรงผมแสกข้างสไตล์ Tory Burch ก็ได้
Editor’s tips: ทรงผมแสกข้างในสไตล์นี้ ต้องการความเรียบเนี้ยบและไม่มีผมชี้ฟู แนะนำให้ใช้มูสลูบลงบนผมเบาๆ ก่อนหวีจัดทรง และในตอนท้ายที่รวบผมเรียบร้อยแล้ว อยากเก็บผมให้เรียบอีกรอบ ให้ใช้สเปรย์แต่งผมฉีดลงบนแปรงสีฟ้นและนำมาหวีเก็บเส้นผมอีกครั้ง จะช่วยให้ได้ผมที่เรียบและอยู่ทรงสวยตลอดวัน
ส่วนทรงผมแสกข้างสไตล์ Coach ก็เป็นอีกหนึ่งทรงที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องหวีเก็บจนเนี้ยบ แต่เซ็ตแบบยกโคนและดัดปลายหน้าม้า ได้กลิ่นอายทรงผมสไตล์เรโทรเบาๆ
Corn Row/Box Braid
อีกหนึ่งเทรนด์ผมที่ยังคงครองเวที NYFW คือ ทรงผมเปียคอร์นโรว์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนักร้องสาว Sade Abu เป็นเปียที่ถักติดหนังศีรษะเป็นแนวคล้ายฝักข้าวโพด สวยเท่ไม่แพ้ใคร
นอกจากนั้น เปีย Box Braid สีสันสดใส ที่หลายคนคุ้นตาจากลิซ่า Black Pink ก็ยังคงอินเทรนด์อยู่ในฤดูกาลนี้
Hair Accessories & scarfs
อีกหนึ่งสิ่งที่ยังฮิตติดรันเวย์ ก็คือ เครื่องประดับผม ผ้าโพกผม ริบบิ้นและเชือกรัดผมแบบต่างๆ
แบรนด์ดังอย่าง Marc Jacobs มาพร้อมลูกเล่นของทรงผมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิ๊บติดผมสวยๆ ริบบิ้นหรือเฮดแบนด์
Proenza Schouler มาพร้อมกับเว็ทลุคและหางม้าต่ำที่ใช้เชือกหนังรัด จนดูเหมือนแส้ หรืออาจเก็บม้วนปลายผมเข้าไป ก็ได้ลุคเท่ๆ ไปอีกแบบ
ผ้าโพกผม ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มฮิตบนรันเวย์ ซึ่งมีหลากสไตล์ตั้งแต่โพกศีรษะ มัดรอบหางม้า ไปจนถึงถักรวมกับเปียแบบเก๋ๆ
ชมบางส่วนของเทรนด์ผมที่น่าสนใจจากเวทีล่าสุดกันไปแล้ว ใครที่อยากย้อนดูเทรนด์ผมจากฤดูกาลก่อน ที่กำลังฮิตกันอยู่ในตอนนี้ ก็ชมกันต่อได้ด้านล่างเลยค่ะ
เทรนด์ผมจาก New York Fashion Week FW19
1. Crimped hair จาก 3.1 Phillip Lim
ทรงผมหยิกเคยเป็นที่นิยมมากในยุค 80s ซึ่งตอนนี้ก็ได้กลับมาฮิตกันอีกครั้ง เพราะล่าสุดมาปรากฏให้เห็นกันบนรันเวย์ NYFW FW 19 โดยจุดเด่นของผมทรงนี้อยู่ที่การแสกกลางและดัดให้เป็นลอนคลื่นถี่ๆ ห่างจากโคนผมไม่กี่นิ้ว ได้ลุคผมลอนหยิกฟูๆ เบาๆ มีการเคลื่อนไหวทุกครั้งที่นางแบบเดินบนรันเวย์
2. Single braid จาก Tory Burch
ใครจะคิดว่าผมเปียธรรมดาๆ จะมาอยู่บนเวทีรันเวย์ได้ แต่แบรนด์ Tory Burch ก็ได้หยิบเอาผมเปียเดี่ยวง่ายๆ นี่แหละมาใช้และทำให้ดูเก๋กว่าที่คิด โดยการถักเปียให้แน่นเข้าไว้และทำให้ผมเปียดูเรียบลื่นเงางาม
3. Swept back จาก Helmut Lang
ในซีซันนี้ แบรนด์ดังอย่าง Helmut Lang เอาผมทรง Blunt bob หรือ ผมบ๊อบตรง มาเซ็ตเสยไปด้านหลังทั้งหมด ให้ลุคแบบเท่ๆ ดูมีพลัง และมีความ Cross-gender ซึ่งผสมผสานความเป็นผู้หญิงและผู้ชายเอาไว้ด้วยกัน
4. Looped buns จาก Dion Lee
โชว์ของ Dion Lee บนเวที FW19 ทำผมนางแบบให้มีลูกเล่นแปลกตา โดยการมัดผมเป็นหางม้าต่ำ จากนั้นบิดผมให้เป็นเกลียวหลวมๆ แล้วติดให้อยู่ด้วยกิ๊บดำ ดูเป็นทรงผมเกล้าสวยๆ ที่มีความสนุกมากขึ้น
5. Neat ponytails จาก Ralph Lauren
อีกหนึ่งทรงผมสวยๆ จากรันเวย์ที่ใช้ในชีวิตจริงได้สบายๆ กับผมหางม้าที่รวบให้เรียบเนี้ยบ แล้วมัดเป็นหางม้าต่ำ ปิดท้ายด้วยการเอาผมมาพันรอบๆ เพื่อปิดหนังยางเอาไว้ ดูแล้วมืออาชีพมากๆ
6. Wet look roots จาก Staud
แบรนด์ Staud นางแบบปรากฏกายด้วยทรงผม Wet look ที่เน้นความเรียบง่าย แต่เอามาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และไม่ว่าจะผมยาว ผมสั้น ผมตรง หรือ ผมหยิก ก็สามารถทำทรงนี้ได้ เพียงแค่เซ็ตผมเสยปาดไปด้านหลัง เก็บผมให้พ้นจากใบหน้า เท่านี้ก็เป๊ะปังแล้วค่ะ
7. Half-up bun จาก Tadashi Shoji
ผมบันครึ่งหัวเป็นสไตล์ทรงผมที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว เราจะเห็นผมทรงนี้กันบ่อยขึ้นตั้งแต่ที่ทำงาน ยันวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่บนเวทีรันเวย์ที่แบรนด์ Tadashi Shoji ก็ยังเอามาใช้กับนางแบบด้วยเช่นกัน
นอกจากเทรนด์ผมจากเวที New York Fashion Week Fall/Winter 2019 แล้ว เราก็ยังมีแบบทรงผมของเวทีนี้ในซีซันก่อนหน้ามาให้ดูกันด้วยค่ะ
8 เทรนด์ผมมาแรง จาก
New York Fashion Week Spring/ Summer 2019
1. Beach waves 2.0 จาก Hellessy
ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงช่วงซัมเมอร์ถึงจะทำผมชิคๆ แบบนี้ได้ เพราะด้วยสไตล์ผมลอนคลื่นอ่อนๆ แบบบีชเวฟ ซึ่งถึงแม้จะดูเป็นทรงเบสิกๆ แต่แบรนด์ Hellessy ก็มาอัพเกรดให้ดูทันสมัยและหรูหรามากขึ้น และแน่นอนว่ามันสามารถทำได้จริงในชีวิตประจำวัน
2. Floral bobs จาก Mansur Gavriel
ผมบ๊อบดัดลอนอ่อนๆ ในลุคเพิ่งตื่นนอนนี่แหละ ที่จะมาเป็นเทรนด์ฮิตในฤดูกาลนี้ไปจนถึงปีหน้าอย่างแน่นอน ผมทรงนี้ให้อารมณ์ความรู้สึกเบาสบายและอิสระ ด้วยเท็กซ์เจอร์สไตล์โบโฮ บวกกับการตกแต่งทรงผมด้วยดอกเดซี่น่ารักๆ
Editor’s tip: การใช้ดรายแชมพู อย่าง โทนี่ แอนด์ กาย แม็ท เท็กซ์เจอร์ ดราย แชมพู ฉีดผม จะช่วยคืนความสดชื่นให้กับเส้นผมในวันที่ 2 แม้ไม่ได้สระผมก็ตาม แถมยังช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์เนื้อแมทท์ให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูพองฟูหนา มีวอลลุ่มมากยิ่งขึ้น
3. Make-me-swoon hair จาก Rodarte
แบรนด์ Rodarte จับนางแบบมาในลุคชวนฝัน ด้วยสไตล์ทรงผมที่อ่อนหวานงดงามราวกับสวนดอกไม้ ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาความแปลกใหม่ ลุคนี้นี่แหละที่คุณต้องการ และไม่ใช่เพียง Rodarte แต่อีกหลายๆ แบรนด์ยังจับเอาดอกไม้และเครื่องประดับผมลายดอกไม้มาเล่นกับทรงผมด้วย ใครสายสาวหวาน โรแมนติก คงจะโดนใจกับเทรนด์นี้แน่นอน
4. Knotted ponytails จาก Ulla Johnson
ปมผมที่ผูกเป็นข้อๆ ยกระดับผมหางม้าให้ดูไฮแฟชั่นยิ่งขึ้น ถือเป็นทรงผมสุดชิคที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และทำได้ทั้งลุคออกงานกลางวันหรือกลางคืนก็ได้
5. Bouffant paradise จาก Marc Jacobs
ทรงยุค 60s ที่มาแรงตั้งแต่ซีซันก่อนบนรันเวย์ ซีซั่นนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Marc Jacobs จับเอาทรง Bouffant ผมทรงสูงแล้วมัดหางม้า มาทำให้ดูสวยได้ง่ายๆ แถมเหมาะกับสาวยุคใหม่ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง นี่ล่ะวอลลุ่มแบบยุคเก่า แต่กลับดูเซ็กซี่และทันสมัย
6. Rockabilly updos จาก Anna Sui
แบรนด์ดัง อย่าง Anna Sui จับนางแบบมาในลุคย้อนยุค ด้วยสไตล์ทรงผมเกล้าแนวร็อกอะบิลลี ซึ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับเสื้อผ้าลายกราฟิกเก๋ๆ ตามฉบับ แอนนา ซุย
7. Glass hair จาก Badgley Mischka
ผมเรียบตรงเงางามราวเคลือบแก้ว เป็นอีกสไตล์ที่ Badgley Mischka จับมาเล่นในซีซั่นนี้ ถือเป็นทรงผมที่ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็ดูสวยหรูงดงามในตัวเอง
Editor’s tip: หลังจากหนีบผมให้เรียบตรง แล้วใช้ โทนี่ แอนด์ กาย เท็กเจอร์ไรซิ่ง ไฟเบอร์ เซ็ตเสยผมไปด้านหลัง จากนั้นลูบไล้เส้นผมด้วย โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ นูทริ-เซรั่ม เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้ผมสวย เปล่งประกายเงางาม ราวแสงสะท้อนจากกระจก
8. Beach bun จาก Prabal Gurung
Prabal Gurung เอาทรงบีชเวฟ มามัดผมมวยต่ำแบบยุ่งๆ พร้อมประดับด้วยเชือกง่ายๆ แค่นี้ก็ได้เป็นทรงผมสวยๆ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมาก แต่ก็ดูมีเสน่ห์และสร้างสรรค์
ทรงผมเหล่านี้ นอกจากจะสวยนำทรนด์จากรันเวย์แล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริงด้วย แล้วอย่าลืมกลับมาติดตามเทรนด์ผมฮอตฮิต และไอเดียดีๆ ในการทำผมกันได้ที่ All Things Beauty กันทุกวันค่ะ
ทรงผม
3 ทรงผมสวย ด้วย ซี ซอลท์ สเปรย์