มารู้จักชื่อและลักษณะของทรงผมชายแต่ละแบบให้มากขึ้นกันดีกว่า
เคยเป็นเหมือนกันไหม? บอกช่างว่าอยากตัดผมทรงอะไร แต่กลับได้ทรงผมแบบที่ไม่ตรงกับความต้องการมาแทน
ชื่อทรงผมชาย และลักษณะของทรงผมแต่ละแบบ>
ทรงผมเฟด (Fade and Taper)>
ทรงผมอันเดอร์คัต (Undercut)>
ทรงผมไถข้างหรือทรงผมเปิดข้าง>
ทรงผมปอมปาดัวร์ (Pompadour)>
ทรงผมควิฟฟ์ (Quiff)>
ทรงผมสลิคแบค (Slicked Back)>
ทรงผมหวีเสย (Comb over)>
ทรงทูบล็อก (Two Block)>
สกินเฮด (Skinhead)>
ทรงผมสกินเฟด (Skin Fade)>
ทรงผมครูว์คัต (Crew cut)>
แมนบัน (Manbun)>
ทรงผมมัลเล็ต (Mullet)>
การรู้จักชื่อทรงผมชายแต่ละแบบและลักษณะที่โดดเด่นหรือแตกต่างกันของแต่ละสไตล์ จะช่วยให้หนุ่มๆ ได้ทรงผมตามที่ต้องการมากที่สุด เพราะหลายครั้งที่เข้าร้านทำผมแล้ว เราไม่สามารถบอกชื่อทรงผมหรือลักษณะที่ถูกต้องกับช่างตัดผมได้ กลายเป็นว่ามีความเข้าใจไม่ตรงกัน ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจึงไม่ถูกใจ เพราะมันไม่ใช่แบบทรงผมที่เราต้องการ
ในปัจจุบันทรงผมชายมีให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เฟด แมนบัน สกินเฮด ครอป ควิฟฟ์ หรือสลิคแบค ซึ่งบางชื่อก็คือ ทรงเดียวกันแต่เรียกต่างกันไปในแต่ละประเทศ หรือบางทรงดูคล้ายกันแต่ก็มีความต่างกันในรายละเอียด เช่น สกินเฮด บัซคัท หรือทรงทหารอเมริกัน ดังนั้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อหนุ่มๆ รวมไปถึงช่างตัดผมหรือแฮร์สไตลิสต์ All Things Beauty จึงได้รวบรวมชื่อเรียกทรงผมชายแบบต่างๆ พร้อมภาพประกอบที่อธิบายลักษณะแต่ละแบบ ซึ่งหนุ่มๆ สามารถนำไปแชร์ต่อเพื่อเป็นความรู้กับเพื่อนๆ ได้เลย
ชื่อทรงผมชาย และลักษณะของทรงผมแต่ละแบบ
ทรงผมเฟด (Fade and Taper)
ทรงผมเฟด จริงๆ แล้วเป็นประเภทของการตัดผม ซึ่งใช้เทคนิคการตัดผมไล่ระดับให้ผมดูมีลักษณะกลืนเนียนกันไป โดยใช้เทคนิคการไถแบตตาเลี่ยนไม่ให้มีขอบ หลักๆ แล้ว รูปแบบของทรงผมเฟดก็ประกอบไปด้วย รองทรงสูง, รองทรงกลาง และรองทรงต่ำ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคนิค หรือ ต่อยอดไอเดียในการเฟดผมมากมาย เราจึงได้เห็นทรงผมเฟดหลากหลายสไตล์มากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจึงควรรู้จักรูปแบบของทรงผมเฟดให้ถูกต้อง เพื่อให้ช่างสามารถตัดผมได้ตรงกับความต้องการจริงๆ
นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดความยาวที่ต้องการเริ่มของการไล่เฟดได้อีกด้วย โดยทั่วไปจะใช้วิธีบอกเบอร์ฟันรองปัตตาเลี่ยน (Clipper guard) ซึ่งมีตั้งแต่เบอร์ #0 ถึง เบอร์ #8 โดยเบอร์ #0 (1/16 นิ้ว) จะเป็นเบอร์ที่ต่ำที่สุด ตัดแล้วผมจะสั้นติดหนังหัว และเพิ่มขนาดไปตามลำดับ เช่น เบอร์ #1(⅛ นิ้ว) , เบอร์ #2 (¼ นิ้ว) เป็นต้น
ทรงผมอันเดอร์คัต (Undercut)
ทรงผมอันเดอร์คัต คือ การตัดผมด้านข้างทั้งสองข้าง รวมถึงด้านหลังให้สั้นเตียน โดยผมด้านบนจะมีความยาวกว่าด้านข้าง
โดยมาก อันเดอร์คัตมักจะเรียกชื่อผสมกับการเซ็ตผมหรือการตัดผมสไตล์อื่นๆ ซึ่งจะออกมาเป็นสไตล์แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับการเซ็ตผมด้านบนเป็นสำคัญ เช่น สลิคแบค อันเดอร์คัต (Slicked Back Undercut) หรือการเซ็ตผมแบบหวีเสยหน้าม้ากับผมด้านหน้าปาดเรียบด้านบน, ปอมปาร์ดัวร์ อันเดอร์คัต (Pompadour Undercut) หรือ การเซ็ตผมด้านบนแบบยกสูง เซ็ตเสยสไตล์ควิฟฟ์ หรือ Side Swept Undercut ซึ่งเป็นการเซ็ตผมแบบหวีปาดข้าง เป็นต้น สำหรับผู้ชายที่ไม่ชอบเซ็ตผม ควรเลือกทรงผมแบบไม่ต้องเซ็ตทรงอื่นๆ
ทรงผมไถข้างหรือทรงผมเปิดข้าง
จริงๆ แล้วทรงผมเฟด เทเปอร์ หรืออันเดอร์คัต คือทรงผมที่รวมอยู่ในทรงผมไถข้าง เพราะทุกทรงจะมีการไถหรือตัดผมด้านข้างออก เพียงแต่ลักษณะการตัดหรือไถด้านข้างจะแตกต่างกันไปตามแต่สไตล์ของทรง
ทรงผมปอมปาดัวร์ (Pompadour)
ทรงผมปอมปาดัวร์ เป็นทรงผมที่ไว้ความยาวด้านบน โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของการเซ็ตผมด้านหน้าในลักษณะม้วนหรือเสยขึ้นไป หรือมักจะเรียกกันว่าเซ็ตผมให้เป็น “ปอม” ตามชื่อทรง ทั้งนี้ทรงทรงผมปอมปาดัวร์ได้รับนิยมอย่างมากตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และทำให้เกิดทรงผมสไตล์ร็อคอะบิลลี่ (Rockabilly) ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะทรงผมที่อยู่ในช่วงแนวดนตรีนี้เฟื่องฟู ซึ่งเป็นทรงผมที่ได้รับอิทธิพลจากนักร้องแนวเพลงนี้ซึ่งมีเอกลักษณ์การเซ็ตผมในรูปแบบปอมปาดัวร์ อย่าง Elvis Presley และ James Dean เป็นต้น
ในปัจจุบันทรงผมปอมปาดัวร์มีการจัดทรงให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น รวมถึงการทำร่วมกับทรงผมในสไตล์อื่นๆ จึงทำให้ทรงผมปอมปาดัวร์ยังคงเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้
ทรงผมควิฟฟ์ (Quiff)
ทรงผมควิฟฟ์ เป็นทรงผมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทรงผมปอมปาดัวร์ โดยจะตัดให้ผมด้านข้างและด้านหลังสั้น ส่วนผมด้านผมจะไว้ความยาว ซึ่งสามารถเซ็ตเสยไปด้านข้าง หรือเสยตั้งไปทางด้านหลังได้
ทั้งนี้ทรงผมควิฟนั้นสามารถเซ็ตได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นยุ่งๆ เซอร์ๆ เป็นธรรมชาติ หรือ เซ็ตพองๆ ให้ดูมีวอลลุ่มก็ได้เช่นกัน ขณะที่ทรงผมปอมปาดัวร์นั้น มีการเซ็ตผมด้านหน้าให้เสยตั้งขึ้นเช่นเดียวกัน แต่จะมีความมันเงา และดูเนี๊ยบมากกว่าทรงผมควิฟฟ์
Editor’s tip : หากใครที่มีผมคอนข้างยาว และอยากจะเซ็ตผมทรงควิฟให้ดูเบาสบาย ให้ฉีดสเปรย์แต่งผม หรือดรายแชมพูลงบนเส้นผม ซึ่งจะช่วยเพิ่มเท็กเจอร์ให้เส้นผมแลดูมีมิติและจัดทรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นเซ็ตให้อยู่ทรงด้วยโพเมดก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทรงผมสลิคแบค (Slicked Back)
ทรงผมสลิคแบค คือการเซ็ตผมให้มีลักษณะเสยปาดเรียบไปทางด้านหลังหรือด้านข้างทั้งหมด มีความเงางาม และไม่มีเส้นผมหลุดลุ่ยแตกแถวออกมาเลยสักนิดเดียว ถือเป็นทรงผมสุดคลาสสิคที่ดูเนี๊ยบมากๆ ซึ่งในสมัยก่อนทรงผมสลิคแบคถือเป็นสัญลักษณ์ของสุภาพบุรุษในสังคมชนชั้นสูงอีกด้วย
เดิมที่ทรงผมสลิคแบคจะเป็นทรงผมที่ไว้ความยาวเท่ากันทั้งหมด แต่ในปัจจุบันมีการทำร่วมกับการตัดผมแบบอื่นๆ เช่น ทรงผมเฟด และอันเดอร์คัต เพื่อให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น
Editor’s tip : การเซ็ตผมทรงสลิคแบค เพียงทำให้ผมชื้นเล็กน้อย แล้วหวีไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ จากนั้นใช้โพเมด โดยป้ายเนื้อโพเมดลงไปบนฝ่ามือ แล้วขยี้เนื้อโพเมดให้กระจายไปทั่วทุกนิ้ว จากนั้นจึงค่อยๆ ใช้มือสางลงไปที่โคนของเส้นผม และใช้หวีหวีซ้ำอีกครั้ง โดยหวีปัดไปในทิศทางที่ต้องการก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทรงผมหวีเสย (Comb over)
ทรงผมหวีเสยหรือ โคมบ์โอเวอร์ คือทรงหวีเสยแสกผมไปข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ เป็นทรงคลาสสิกของผู้ชม วิธีทำแบ่งผมแสกข้าง หวีเสยผมด้านบนที่ยาวกว่าไปด้านข้างตวัดส่วนปลายผมไปด้านหลัง ส่วนผมด้านที่สั้นกว่าหวีเสยเก็บในแนวนอนไปด้านข้างเหนือใบหู เปิดหน้าผากเห็นแนวไรผมตีกรอบใบหน้าชัดเจน ใช้โพเมดหรือครีมแต่งผมเวทลุคช่วยจัดทรง สำหรับคนที่มีผมยาวปิดใบหูและด้านหน้ายาวถึงปลายจมูก ก็ทำทรงหวีเสยได้เช่นกัน เพิ่มเติมด้วยการเก็บผมด้านข้างทัดหูไว้ ทรงนี้เหมาะกับคนผมเส้นเล็กและคนผมน้อย และเป็นทรงยอดนิยมสำหรับออกงานพิธีการหรืองานทางการ เพราะลุคหล่อเรียบเนี้ยบกริบจริงๆ
ทรงทูบล็อก (Two Block)
ทรงนี้เป็นทรงยอดฮิตตามเทรนด์เกาหลี ลักษณะเด่นของผมทรงทูบล็อก (Two Block)คือการตัดผมเป็น 2บล็อกหรือ 2ชั้น ชั้นบน เป็นผมหนายาว ชั้นล่างเป็นการไถอันเดอร์คัตผสมกับเทปเปอร์เฟดให้ผมบางลง ผมชั้นล่างบางได้ถึงขั้นผมเกรียนติดหนังศีรษะแบบสกินเฟดได้ ส่วนการตัดผมชั้นบนคล้ายคลึงทรงหัวเห็ด โบลว์คัทหรือกะลาครอบที่ปล่อยเส้นผมยาวประมาณ 4-5 นิ้วตามรูปศรีษะของแต่ละคน หรือวัดให้ตรงแนวสันคิ้ว และหางตา เป็นเส้นวงกลมรอบศรีษะ หรือจะตัดเป็นแบบผมรองทรงหนา ช่อผมที่ยาวสามารถปรับลุคจากผมตรง เป็นผมซอบสไลด์ปลายให้มีเลเยอร์ตรงขอบ หรือดัดให้เป็นทรงหยิกหยักศก ถ้าปล่อยหน้าม้าสั้นเหนือคิ้วแต่งทรงได้ทั้งหวีแสกหน้าม้าบาง หรือหวีเสยตั้งกระบังเล็กแสกกลางในสไตล์ผมแสกกลางหน้าม่าน หรือ curtain bangs ได้ด้วย
สกินเฮด (Skinhead)
สกินเฮด (Skinhead) เป็นทรงผมสั้นชายแบบหนึ่งที่มีลักษณะสั้นเกรียนติดหนังหัว โดยใช้ปัตตาเลียนไถผมให้สั้นเท่ากันทั้งศีรษะ (แต่ไม่ถึงระดับที่โกนผม) ผมทรงสกินเฮดนั้น เป็นทรงที่แทบไม่ต้องเซ็ตเลยและดูแลได้ง่าย เพราะความที่ผมสั้นเตียนจนเกือบติดหนังศีรษะ จึงเป็นอีกหนึ่งทรงที่ผู้ชายนิยมตัดกันมาก
ด้วยความสั้นของทรงผมที่เกือบอยู่ในระดับโกน ทำให้หลายคนเข้าใจว่าสกินเฮดนั้นมีแบบเดียว แต่ที่จริงแล้วสกินเฮดมีหลายระดับความยาว ตามฟันรองของปัตตาเลียนและยังสามารถผสมผสานกับทรงผมสไตล์อื่นๆ เช่น ไถเปิดข้างหรืออันเดอร์คัตได้ด้วย
ทรงผมสกินเฟด (Skin Fade)
ทรงผมสกินเฟด คือ ทรงผมที่ตัดผมด้านข้างด้วยการไถปัตตาเลียนจนผมเกรียนโล่งเห็นหนังศรีษะชัดเจนและโคนผมสั้นกุดติดหนังศีรษะเห็นเป็นเงาจางๆ จนถึงหนังศีรษะขาวโพลน (ถ้าตัดเกรียนโล่งทั้งหัวจะกลายเป็นทรงสกินเฮด Skin Head) ทรงสกินเฟด นิยมตัดผสมกับทรงผมเฟด หรือทรงอื่นๆ และแนวผมที่ตัดเป็นสกินเฟดสูงเหนือขมับจนถึงแนวมงกุฎหรือเส้นรอบวงกลางกระหม่อม สูงกว่าทรงเกรียนแบบรองทรงสูงหรือ High fade ทรงนี้ประหยัดเวลาในการดุแลหนังศีรษะและเส้นผม แต่งทรงง่ายและดูสดใส
ทรงผมครูว์คัต (Crew cut)
ทรงครูว์คัต คือผมตัดสั้นเกรียนทั้งด้านบนและด้านข้าง ทรงนี้เรียกติดปากว่า ทรงทหาร ต้นตำรับมาจากทรงผมทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่่งต้องการรักษาสุขอนามัยระหว่างใช้ชีวิตกลางสนามรบและในฐานทัพช่วงสงคราม เป็นทรงที่ดูแลรักษาความสะอาดและแต่งทรงง่าย ทรงครูว์คัตสไตล์ทหารในยุคปัจจุบัน ผมด้านบนอาจจะยาวกว่าทรงต้นตำรับ แต่ยังเน้นความเกรียนและเส้นผมสั้นจากโคนผมไม่เกิน 2-3 นิ้ว เก็บผมด้านข้างด้วยการไถผมบางๆ เปิดให้เห็นหนังศีรษะรำไร เน้นหล่อแบบเกรียนๆ สะอาดๆ
แมนบัน (Manbun)
ทรงผมมัดจุกชาย หรือ ที่ยุคนี้เรียกกันว่า แมนบัน (Manbun) เป็นทรงผมสำหรับผู้ชายที่ชอบไว้ผมยาว ที่บางเวลาอาจไม่อยากปล่อยเซอร์ หรือต้องการความเรียบร้อยเพื่อออกงานจึงรวบผมมัดเป็นจุกแบบเท่ๆ
ทรงผมแมนบันนั้น ไม่จำเป็นต้องมัดเป็นจุกด้านบน หรือ Top Knot เพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วแมนบันสามารถสร้างสรรค์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะผสมกับทรงอันเดอร์คัต หรือจะมัดแบบครึ่งหัว หรือจะถักเปียให้ดูเท่ก็ยังไหว
ทรงผมมัลเล็ต (Mullet)
ทรงผมแบบมัลเล็ตหรือทรงผมซอยรากไทร เป็นทรงที่ตัดไล่ระดับหน้าสั้นหลังปล่อยยาวระต้นคอเหมือนรากต้นไทร ด้านข้างซอยไล่ระดับแบบมีเลเยอร์ เป็นทรงผมยอดฮิตในยุค 80s ที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคเลยก็ว่าได้ เป็นเทรนด์ต่อเนื่องมาจากสไตล์ไอคอนหรืออินฟลูเอนเซอร์แห่งยุค ที่เป็นร็อคสตาร์ยุค 70-80 อย่าง David Bowie ในยุคอัลบั้มเพลง Ziggy Stardust และพระเอกในหนังซีรีย์ฮอลลีวู้ดยอดฮิตยุคนั้นอย่าง Mad Max และ นักสืบแม็คไกเวอร์ ทรงนี้ยังผสมผสานกับการตัดผมทรงอื่นๆ อย่าง อันเดอร์คัต สกินเฟด บ๊อบรากไทร หน้าม้า และ shaggy cut และยังทำได้ทั้งผมตรงและผมหยักศก ผมด้านหลังอาจจะเป็นมัลเล็ตสั้นแค่ระท้ายทอย หรือรากไทรยาวเลยต้นคอไปก็ได้ ทรงนี้กลับมาฮิตผสมหลายทรงเป็นโมเดิร์นรากไทรในหมู่ไอดอลเกาหลีและจีนด้วย
ทรงผมชาย
มารู้จักเบื้องหลังผมหางม้าในตำนานของ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld)