เหตุผลฉ่ำๆ เบอร์รี่ดีต่อผิว บูสต์ความใสในโลชั่นผิวขาว
รู้จักประโยชน์ของเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระวิตามินช่วยผิวดีและสารสกัดเบอรีที่ที่ใช้เป็นส่วนผสมในโลชั่นช่วยบูสต์ผิวขาวใสชุ่มชื้นได้อย่างไร
8 เหตุผลที่เบอร์รี่ดีต่อผิว>
เบอร์รี่ตัวท็อปดีต่อผิว>
วิธีดูแลผิวสวยด้วยเบอร์รี่>
ทุกวันนี้นอกจากการดูแลสุขภาพองค์รวมแล้ว สายบิวตี้ก็ยังมีใจให้กับซูเปอร์ฟู้ดพืชตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์อย่าง โลชั่นผิวขาวและมอยเจอไรเซอร์หลายตัว ที่นิยมใช้สารสกัดจากเบอร์รี่เป็นส่วนผสมสำคัญ เพราะคุณประโยชน์ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยทั้งทางสายโภชนาการและสายนวัตกรรมความงามแล้วว่า ลูกไม้เล็กๆ เหล่านี้มีมากจริงๆ
สำหรับประโยชน์ด้านผิวพรรณ เบอร์รี่ช่วยฟื้นฟูผิวฉ่ำไม่แห้งตึง บูสต์ผิวใสให้ผิวขาวเนียน ช่วยซ่อมแซมผิวในระดับเซลล์ ช่วยกระบวนดีท็อกซ์ในเซลล์ผิว ลดการอุดตันต่างๆ ลดการอักเสบ ผิวยืดหยุ่นกระชับจากการกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน
พืชตระกูลเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระในเซลล์นั่นเอง สารสกัดจากเบอร์รี่จึงนิยมใช้ในสกินแคร์ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าเลยทีเดียว
8 เหตุผลที่เบอร์รี่ดีต่อผิว
เรามาลองมาดูรายละเอียดกันว่าเบอร์รี่ดีต่อผิวขนาดนั้นได้ยังไง
1.มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสารอนุมูลอิสระหรือ free radical ในร่างกายคนเราเกิดจากปฏิกิริยาที่เรียกว่าออกซิเดชั่น (Oxidation) ที่โมเลกุลมีอิเลคตรอนเดี่ยวไม่เสถียรและจำเป็นต้องหาคู่โดยวิ่งไปจับอิเลคตรอนจากโมเลกุลอื่น เพื่อให้ตัวเองเสถียร อธิบายง่ายๆ คือไปแย่งอิเลคตรอนมาจากโมเลกุลของเซลล์อื่น เซลล์ที่ถูกแย่งก็เสียหาย เรียกว่าถูกทำร้ายถึงระดับดีเอนเอ และกลายเป็นปัญหาต่างๆ ในร่างกาย รวมทั้ง การทำร้ายผิวทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลงการผลัดเซลล์ผิวเก่าน้อยลง ผิวขาดความชุ่มชื้น ผลที่ตามมาคือผิวแห้งกร้านหย่อนคล้อย มีริ้วรอยและหมองคล้ำเกิดจุดด่างดำง่ายขึ้น
พืชตระกูลเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในกลุ่มสารโพลีฟีนอลอย่างฟลาโวนอลหรือฟลาโวนอยด์ (Flavonol polyphenols) มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระในเซลล์นั่นเองสารสกัดจากเบอร์รี่จึงนิยมใช้ในสกินแคร์ตั้งแต่หัวจรดเท่าเลยทีเดียว
2. มีวิตามินซีสูง โดยวิตามินซีหรือกรดแอสคอร์บิก มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีและเป็นตัวช่วยบำรุงผิวพรรณเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก เบอร์รี่ที่มีวิตามินซีสูงๆ รวมถึงแครนเบอร์รี่ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการสร้างเนื้อเยื่อและช่วยซ่อมแซมผิวที่เป็นแผล และยังช่วยเสริมสร้างกระดูกกล้ามเนื้อ บูสต์การทำงานของภูมิคุ้มกัน เพราะวิตามินซีเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทั้งกระตุ้นการสร้างใหม่ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันคอลลาเจนถูกทำลาย
3. มีแอนโธไซยานิน (Anthocyanin)
ช่วยเยียวยาแผลบนผิวหนังได้และเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระช่วยบำรุงผิวชะลอวัยป้องกันผิวเสื่อมสภาพและช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากปัจจัยมลภาวะและแสงแดดได้
4. มีวิตามินอี ช่วยกระตุ้นการเติบโตของผิวผมและเล็บและช่วยต้านการอักเสบในร่างกาย
5. มีสารต้านการอักเสบ อย่างกรดยูซอร์ลิก (Ursolic acid)
6. มีความฉ่ำน้ำ เพิ่มความสดชื่นแบบซูเปอร์เฟรชให้กับร่างกาย เบอร์รี่เกือบทุกชนิดมีส่วนประกอบเป็นน้ำสูง เช่น แครนเบอรี่ที่มีน้ำอยู่ถึงร้อยละ 90 ต่อหนึ่งลูก เป็นต้น
7. อุดมด้วยแร่ธาตุที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ อย่าง มังกานีสและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจเสริมระบบไหลเวียนเลือดได้ดีทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารและออกซิเจนหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวกระตุ้นกระบวนการการผลัดเซลล์ผิวและสร้างเซลล์ผิวใหม่สุขภาพดี
8. มีไฟเบอร์สูง ช่วยกระบวนการดีท็อกซ์ในเซลล์ลดการอุดตันต่างๆ ในรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของรูขุมขนอุดตันรวมทั้งสิวอุดตันทำให้ผิวพรรณสะอาดลดความเสี่ยงต่อการอุดตันและการอักเสบต่างๆ
เบอร์รี่ตัวท็อปดีต่อผิว
รู้เหตุผลกันแล้วว่า ทำไมเบอร์รี่จึงกลายเป็นท็อปฮิตในการบำรุงผิวสวย เรามาดูกันว่าเบอร์รี่ตัวเด็ดที่อยู่ในกลุ่มซูเปอร์เบอรี่ ที่นิยมใช้ในโลชั่นผิวขาวและตัวมอยเจอไรเซอร์บำรุงผิวมีอะไรกันบ้าง
1.บลูเบอร์รี่
ลูกไม้สีม่วงอมน้ำเงินมีวิตามินซี และแอนโธไซยานินสูง ช่วยป้องกันการเสื่อมและเสริมสร้างคอลลาเจนและโปรตีนเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวและผิวอิ่มฟูต้านอนุมูลอิสระจากการเจอแดดแรงๆ ช่วยกู้ผิวชะลอวัยรวมทั้งผิวที่ถูกทำร้ายจากแดด
ลูกไม้สีม่วงอมน้ำเงินที่เต็มไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง แอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เบอร์รี่เป็นสีม่วงอมน้ำเงิน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและการซ่อมแซมผิวเสียจากปัจจัยก่อสารอนุมูลอิสระ อย่างรังสียูวีในแสงแดดมล ภาวะควันบุหรี่และความเครียด
2.แครนเบอร์รี่
ลูกไม้สีน้ำตาลดำขนาดเล็ก แต่ละลูกฉ่ำไปด้วยส่วนประกอบที่เป็นน้ำถึง 90 เปอร์เซนต์และเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ได้แก่
- วิตามินซีหรือกรดแอสคอร์บิก ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดี และเป็นตัวช่วยบำรุงผิวพรรณ เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแครนเบอรี่มีวิตามินซีสูงเป็นอันดับต้นๆ ของตระกูลเบอรี่
- มีวิตามินอี ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระดูดซึมหรือละลายได้ดีในไขมัน
- สารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มโพลีฟีนอล อย่างฟลาโวนอลหรือฟลาโวนอยด์ หรือ เซอร์เซติน (Quercetin) ซึ่งพบในแครนเบอรี่และเบอรี่สีแดงดำมากกว่าในผักผลไม้อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีไมริเซติน (myricetin) ที่มีฤิทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
- มีกรดยูซอร์ลิก ที่เป็นส่วนประกอบในยาสมุนไพรพื้นบ้านมีฤทธิ๋ต้านการอักเสบในเซลล์ได้ดี
- มีแอนโธไซยานิน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Editor's choice: แครนเบอรี่มีวิตามินซีสารต้านอนุมูลอิสระและแอนโธไซยานินสูงเป็นอันดับต้นๆ ของตระกูลเบอรี่ นิยมนำมาเป็นส่วนผสมของโลชั่นที่ช่วยให้ผิวดูโกลว์หรือผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ใครที่กำลังมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแคนเบอร์รี กองบก. ขอแนะนำ วาสลีน เฮลธี้ ไบรท์ ซุปเปอร์ฟู้ด เฟรชล็อค แครนเบอร์รี่ (Vaseline Healthy Bright Superfood Freshlock Cranberry) ที่ผสานคุณสมบัติของแครนเบอร์รี ช่วยบำรุงผิวใสฉ่ำๆ สัมผัสสดชื่นเวลาทาผิว และยังใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
3. สตรอว์เบอรี่
มีวิตามินซีสูงเสริมสร้างคอลลาเจนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทำให้ผิวเด้งป้องกันผิวเสื่อมสภาพช่วยชะลอวัยและบูสต์ผิวกระจ่างใสและต้านการอักเสบช่วยลดการเกิดสิวอักเสบจึงมีการใช้สตรอว์เบอรี่ในผลิตภัณฑ์สครับผิวและสารสกัดในส่วนผสมของสูตรโลชั่นมิกซ์เบอร์รี่ด้วย
4. ราสเบอร์รี่
ทั้งราสเบอรีแดงและราสเบอรี่ดำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบูสต์ผิวโกลว์ใส
5. องุ่นแดง
มีสารที่เรียกว่าเรสเวราทรอล (Resveratrol) ในกลุ่มสารโพลีฟีนอล มีฤทธิ่ต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกรังสียูวีทำร้ายและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นผิวกระชับมีวิตามินซีและวิตามินอีที่ช่วยดูแลผิวกระจ่างใสชะลอวัย
6. แบล็คเคอแรนต์
เป็นอีกหนึ่งในพืชตระกูลเบอร์รีอุดมด้วยกรดไขมันที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นและมีสารต้านอนุมูลอิสระเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งกร้านสารสกัดจากแบล็คเคอแรนต์ยังมีฤทธิ๋ต้านการอักเสบและซ่อมแซมผิวจากอาการผิวผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบได้ด้วย
7. แบล็คเบอร์รี่
มีวิตามินซีสูงช่วยลดทอกซินหรือต้านสารอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ผิวช่วยเสริมกระบวนการสร้างคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ผิวเปล่งปลั่งอยู่เสมอ
วิธีดูแลผิวสวยด้วยเบอร์รี่
เมื่อคุณประโยชน์อัดแน่นขนาดนี้เบอร์รี่หรือลูกไม้ที่จัดอยู่หมวดซูเปอร์ฟูด ที่คุณค่าทางโภชนาการมีแร่ธาตุวิตามินและไฟเบอร์ ซึ่งร่างกายคนเราสามารถรับสารเหล่านี้ได้ทั้งการกินและการทาลงบนผิวหนังได้เลย มาดูกันว่าช่องทางไหนที่เราจะสะดวกใช้ได้บ้าง
1.วิตามินและแร่ธาตุที่จะได้รับจากการรับประทานเบอร์รี่
- ผลสดของแครนเบอรี่มีส่วนประกอบเป็นน้ำถึง 90 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นไฟเบอร์และคาโบไฮเดรตในแครนเบอรี่สด 100 กรัม(1 ถ้วยตวง) มีไฟเบอร์สูง
- การรับประทานบลูเบอรี่ วันละ 1 ถ้วยตวง(148 กรัม) ต่อวัน ช่วยดูแลผิวสวยเปล่งปลั่ง ช่วยเร่งกระบวนการเยียวยาแผล หรือรอยช้ำบนผิวอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
- มิกซ์เบอรี่หรือสูตรเบอรี่รวม ที่ไม่เพิ่มน้ำตาลหรือไซรัป เป็นแหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยที่ไฟเบอร์ช่วยในด้านการขับถ่ายได้ดีอีกด้วย
2. ใช้สกินแคร์ผสมสารสกัดจากเบอร์รี่
ข้อดีของการใช้สารสกัด คือ ได้ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังและงานวิจัยในห้องทดลองมาก่อนแล้วว่า ปลอดภัยและเจาะจงกับการใช้โดยตรงกับผิวหนัง ขจัดสารอื่นๆ ในลูกไม้ ที่อาจจะก่อผลข้างเคียงหรือไม่จำเป็นต่อการบำรุงผิวได้
Editor's choice: สำหรับสาวๆ ที่อยากเพิ่มมอยเจอไรเซอร์ให้ผิวฉ่ำและบูสต์ผิวใสไปพร้อมกัน เราขอแนะนำ โลชั่นบำรุงผิว ซิตร้า ไฮโดร คอลลาเจน ไบรท์ โลชั่น มิกซ์ เบอร์รี่ (Citra Hydro Collagen Bright Lotion Mixed Berry) ที่ผสานพลังจากไฮโดรคอลลาเจนสกัดจากธรรมชาติและสารสกัดจากตระกูลซุปเปอร์เบอร์รี่ ทั้งสตรอว์เบอรี บลูเบอรี แบลคเคอแรนต์ ราสเบอร์รี องุ่นแดงและแครนเบอรี ที่รู้กันว่าอุดมไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนซ์ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ผิวเรียบเนียนนุ่มอิ่มฟู บูสต์ความชุ่มชื้นเนื้อสัมผัสบางเบาในระดับเดียวกับบำรุงผิวหน้าซึมลึกเข้าบำรุงผิวกายได้เร็วและยังมีกลิ่นของเบอร์รี่เติมความสดชื่นฉ่ำๆในวันอบอ้าวอีกต่างหาก