5 สูตรโฮมเมดสครับผิวหน้า 5 แบบช่วยเร่ง ผลัดเซลล์ผิว ฟื้นผิวเรียบเนียน
แนะนำสูตรสครับจากธรรมชาติทำเองได้ ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวหน้า และการบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวทั้ง 5 แบบ เพื่อผิวเรียบเนียน
เตรียมผิวก่อนสครับ>
5 สูตร โฮมเมดสครับหน้า สำหรับผิว 5แบบ>
สูตร 1 สครับมะนาว น้ำตาล น้ำผึ้ง>
สูตร 2 สครับข้าวโอ๊ต>
สูตร 3 สครับโฮมเมด กาแฟ>
สูตร 4 สครับอัลมอนด์ น้ำผึ้ง>
สูตร 5 สครับชาเขียว น้ำตาลทราย>
ผิวหน้าแต่ละแบบควรขัดหน้าบ่อยแค่ไหน>
เรื่องที่ควรคำนึง ในการสครับผิวหน้า>
ทิปส์ดูแลผิว หลังสครับผิวหน้า>
ใครๆ ก็อยากมีผิวเรียบเนียน แต่ถ้าผิวมีเซลล์เก่าที่หลุดออกยาก และกระบวนการ ผลัดเซลล์ผิว ตามธรรมชาติทำงานได้ไม่ดีนัก อาจจะด้วยปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบวนการเผาผลาญภายในร่างกาย และการทำงานของผิวตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือการเจอแดด ฝุ่น ควัน นอนน้อย เครียดและเครื่องสำอางตกค้าง ฯลฯ
All Things Beauty เลือกสูตรสครับง่ายๆที่หาได้ในบ้าน สำหรับคนที่อยาก เร่งผลัดเซลล์ผิวฟื้นผิวเรียบเนียน ด้วยการดูแลตัวเอง มาดูกันค่ะ ว่ามีสูตรไหน เหมาะกับสภาพผิวแบบไหนบ้าง และวิธีการตั้งแต่การเตรียมผิวไปจนถึงขั้นตอนการบำรุงผิวหลังผลัดเซลล์ผิวค่ะ
เตรียมผิวก่อนสครับ
ขั้นตอนแรกต้องเตรียมผิวกันก่อนนะคะ มาดูว่าต้องทำอะไรบ้าง
- เลือกวันที่ผิวหน้าไม่โทรมมาก ไม่ว่าจากแสงแดด จากสิว และไม่มีอาการโรคผิวหนังต่างๆ รวมถึง เซบเดิร์ม เชื้อรา และแผลต่างๆ บนใบหน้า
- เลือกวันว่าง งดแต่งหน้าสักวัน หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ควรล้างเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกออกให้หมด ล้างหน้าอย่างอ่อนโยน ด้วยน้ำสะอาดอุณภูมิห้อง และผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ก่อนลงสครับใดๆ บนผิวหน้า
- สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลี่ยงการออกแดดจัดระหว่างวัน ก่อนวันสครับผิวอย่างน้อยราว 3-4 วัน ลดการระคายเคือง
- ผิวที่เป็นสิว ควรรักษาสิว หรือผิวอักเสบให้หายดี ก่อนสครับหน้าเร่งผลัดเซลล์ผิว ป้องกันการกระตุ้นการเกิดสิว ผิวระคายเคืองง่ายและสิวอักเสบ
- ล้างมือให้สะอาด และเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนลงมือ
5 สูตร โฮมเมดสครับหน้า สำหรับผิว 5แบบ
สูตร 1 สครับมะนาว น้ำตาล น้ำผึ้ง
ส่วนผสม: น้ำมะนาวครึ่งลูก ผสมกับน้ำตาลทรายบดละเอียดเป็นผงแป้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
ประโยชน์: มะนาว มีกรดผลไม้หรือ AHA และวิตามินซีตามธรรมชาติ น้ำมะนาวสดช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ น้ำตาล เป็นสารฮิวเมกเตนท์ที่สามารถดูดความชื้นตามธรรมชาติและล็อคความชุ่มชื้นบนผิวได้ดี จึงเพิ่มมอยเจอไรเซอร์ตามธรรมชาติ และผงน้ำตาลทราย เป็นเม็ดบีตเล็กๆ ที่ช่วยขัดเซลล์ผิวและขจัดสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวออกทำให้ผิวเรียบเนียน น้ำผึ้ง มีฤทธิต้านการอักเสบและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว
วิธีทำ: ผสมส่วนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อครีม พอกหน้าทิ้งไว้ราว 5 นาทีก่อนนวดเบาๆเป็นวงกลม ราว 15 นาที ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือใช้พัฟฟ์เปียกหมาดเช็ดออก ก่อนล้างหน้าให้สะอาด
เหมาะสำหรับ: คนผิวแห้ง และผิวมีริ้วรอย ผิวคล้ำแดด
สูตร 2 สครับข้าวโอ๊ต
ส่วนผสม: ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนชา น้ำมันมะกอกสำหรับผิว 2-3 หยด
ประโยชน์: ข้าวโอ๊ต (Oatmeals) ช่วยดูดซับน้ามันส่วนเกินบนผิวได้ และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เหมาะกับคนหน้าสิว และเกล็ดละเอียดของข้าวโอ๊ตที่เปียกนุ่มนิ่ม ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกง่ายขึ้น น้ำตาลและน้ำมันมะกอก ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและเป็นสารหล่อลื่นลดการเสียดสีขณะสครับผิว
วิธีทำ: ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำตาลและน้ำมันมะกอกจนได้เนื้อข้นเหนียว ก่อนจะใช้ขัดถูกบนผิวหน้าที่เปียกหมาด อย่างเบามือ เวลา 5-10 นาที ก่อนจะล้างหน้าให้สะอาด
เหมาะสำหรับ: คนผิวหน้ามันหรือผิวเป็นสิว
สูตร 3 สครับโฮมเมด กาแฟ
ส่วนผสม: กาแฟบด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
ประโยชน์: ผงกาแฟจากเมล็ดกาแฟคั่วบด มีไนอะซินาไมด์ ตามธรรมชาติ หรืออนุพันธุ์หนึ่งของวิตามิน B3 และมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่กระตุ้นการทำงานของร่างกาย ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยลดจุดด่างดำจากแดดคล้ำ และช่วยชะลอริ้วรอย เพิ่มการผลิตคอลลาเจนและช่วยลดเซลลูไลท์
วิธีทำ: ผสมกาแฟบดละเอียดกับน้ำตาลทรายและน้ำมันธรรมชาติอย่างน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ให้เป็นเนื้อครีมและใช้ขัดผิวหน้าเบาๆ 5-10 นาที ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น
เหมาะสำหรับ: ผิวอ่อนล้าและหย่อนคล้อย ผิวคล้ำแดด ชะลอวัย
สูตร 4 สครับอัลมอนด์ น้ำผึ้ง
ส่วนผสม: อัลมอนด์บดละเอียด 1/4 ถ้วยตวง น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันโจโจบา (jojoba oil) 1 ช้อนโต๊ะ
ประโยชน์: เมล็ดอัลมอนด์ มีวิตามิน E สูง และสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำผึ้งช่วยเก็บความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวระคายเคือง น้ำมันโจโจบา มีวิตามินอีและไม่อุดตันผิว
วิธีทำ: ผสมทุกอย่างให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ตักทีละครึ่งช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย เพื่อลดความข้น นวดลงบนผิวเบาๆ จนทั่ว ยกเว้นรอบดวงตาม เช็ดสครับออกด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นหมาดๆ ตามด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
Editor's Tips: สูตรนี้สามารถเก็บข้ามวันได้ โดยใส่ในขวดแก้วสีทึบ ปิดฝาให้สนิทและแช่เย็นในช่องปกติ
เหมาะสำหรับ- ผิวผสมและผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้น
สูตร 5 สครับชาเขียว น้ำตาลทราย
ส่วนผสม: ผงชาเขียว 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา น้ำมันมะกอก 2-3 หยด
ประโยชน์: ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและต้านจุลินทรีย์ มีกลิ่นสดชื่นผ่อนคลาย
วิธีทำ: ผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน พอกหน้าไว้สัก 5 นาที แล้วค่อยขัดนวดเบาๆจนทั่วใบหน้า เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกง่ายขึ้น ล้างด้วยน้ำเย็นจนสะอาด
เหมาะสำหรับ: ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
ผิวหน้าแต่ละแบบควรขัดหน้าบ่อยแค่ไหน
การขัดผิวทุกวัน ไม่ได้ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิว เร็วขึ้น แต่จะเป็นการทำลายเกราะป้องกันผิวต่างๆ ทำให้ผิวอ่อนแอและมีปัญหามากกว่าเดิม และยังมีปัจจัยด้านสภาพผิว และอายุของผิวตามวัย ที่เสื่อมสภาพการขัดผิวต้องทำอย่างระมัดระวังและไม่บ่อยเกินไป
- ผิวทุกประเภท สครับหน้า ไม่เกิน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- เว้นช่วง 3-4 วัน ก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่เป็นเนื้อหยาบขัดผิวแรงๆ
- ในช่วงฤดูฝนหรือช่วงอากาศร้อนอบอ้าว ความชื้นสูง ทำให้มีเหงื่อเและต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันออกมาเยอะ หน้ามันขาดน้ำสิ่งสกปรกตกค้างรูขุมขันอุดตันง่าย แต่ไม่ควรขัดหน้าบ่อย เพราะผิวต้องการระยะเวลาอย่างน้อย 3-4 วันในการสร้างเซลล์ผิวใหม่หลังการผลัดเซลล์ผิวออกไปแล้ว อาจใช้การดูแลความสะอาดผิวหน้าประจำวัน เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และไม่ดึงน้ำมันหล่อเลี้ยงและรักษาความชุ่มชื้นผิวให้สมดุลได้ อย่าง พอนด์ส ไบรท์ มิราเคิล อัลทิเมท คลาริตี้ วิป คอลลาเจน วิป โฟม (Pond's Bright Miracle Ultimate Clarity Whip Collagen Whip Foam) ที่มีฟองนุ่มเนียนละเอียดผสมคอลลาเจน ช่วยผิวแข็งแรงเรียบเนียน
- ผิวหน้ามัน ไม่ต้องขัดผิวแรงแต่ขัดผิว เว้นช่วง 3-4 วันต่อครั้ง เพราะผิวมันมีการผลัดเซลล์ผิวช้ากว่าผิวแห้ง และหลังขัดผิวควร บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นทันที เพื่อรักษาความสมดุลของต่อมไขมัน ป้องกันหน้ามันซ้ำ
- ผิวแห้งควรสครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- การสครับผิวควรทำขณะผิวเปียกหรือหมาด ป้องกันผิวระคายเคือง เกิดผื่นแพ้ภายหลัง
- ใช้ปลายนิ้ว นวดสครับเบาๆ บนผิวหน้า ป้องกันการเสียดสีกระตุ้นการอักเสบใต้ผิวหนัง และจุดด่างดำ
- ถ้ารู้สึกแสบคันหรือร้อนผิวหน้า ควรหยุดสครับผิวทันที และล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด และพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป วิธีป้องกัน สามารถทดสอบการแพ้ได้ จากการลองสครับกับผิวใต้ท้องแขน บริเวณที่ผิวบอบบางก่อนใช้กับผิวหน้า ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้
- หลีกเลี่ยงการสครับผิวหน้าทุกแบบ ถ้ามีสิวอักเสบ มีหนอง ผู้ป่วยโรคเริม หูดหรือผู้ป่วยโรคผิวหนังทุกชนิด เพราะเสี่ยงเกิดการอักเสบรุนแรงและติดเชื้อที่เป็นอันตรายได้ค่ะ
เรื่องที่ควรคำนึง ในการสครับผิวหน้า
- การใช้โฮมเมดสครับ ไม่ควรจะมีเนื้อหยาบหรือเป็นเม็ดหนา ควรเป็นรูปแบบผงเนื้อละเอียดใกล้เคียงกับแป้งฝุ่นทาหน้า เพื่อเลี่ยงการ เสียดสีทำร้ายเกราะป้องกันผิว เกิดผิวระคายเคืองเป็นแผลเล็กๆ และติดเชื้ออักเสบได้
- เวลาที่เหมาะสำหรับการ สครับหน้า คือ ตอนกลางคืน เพราะกลางคืนผิวจะได้พักผ่อนเต็มที่
- ถ้าสครับหน้าระหว่างวัน ควรรออย่างน้อย 6 ชั่วโมง จึงออกไปเจอแสงแดดหรือแสงกลางวันที่มีรังสียูวีตัวร้ายทำลายเกราะป้องกันผิวได้ง่าย หรือรอหลัง 5-6 โมงเย็น ซึ่งแดดร่มและยูวีลดความเข้มข้นลงแล้ว แต่อย่าลืมทาครีมบำรุงและครีมกันแดด 1 ชั่วโมงก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันความเสี่ยงผิวไหม้แดดดำ
ทิปส์ดูแลผิว หลังสครับผิวหน้า
ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการสครับหน้าคือ ช่วงกลางคืน เพราะขณะร่างกายนอนหลับพักผ่อน และผิวได้พักผ่อนเต็มที่ ก่อนเผชิญมลภาวะและแสงแดดในระหว่างวัน และอย่าลืม ลงมอยเจอร์ไรเซอร์และปิดท้ายด้วยครีมกันแดดในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ขั้นตอนการบำรุงและกันแดดต้องจัดควบคู่กันทุกวัน
อาจเลือกครีมกันแดดมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวเพื่อลดขั้นตอนและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวที่ผ่านการสครับเร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น พอนด์ส ไบรท์ มิราเคิล อัลทิเมท คลาริตี้ เดย์ ครีม เอสพีเอฟ 30 พีเอ +++ ไนอาซอร์ซินอล (Pond's Bright Miracle Ultimate Clarity Day Cream SPF30 PA+++ Niasorcinol ) เดย์ ครีม สูตรเฉพาะของพอนด์สที่ผสานไนอะซินาไมด์และรีซอซินอล ที่กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและปกป้องผิวแข็งแรง สารกันแดดค่าเอสพีเอฟ 30 เพียงพอสำหรับป้องกัน และสามารถทาทับระหว่างวันได้ หากมีเหงื่อหรือเจอแดดแรง แต่ต้องซับเหงื่อให้สะอาดก่อนลงครีมกันแดดซ้ำทุกครั้งด้วยค่ะ
รู้จัก สูตรสครับผิวหน้า กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวแบบง่ายๆกันไปแล้ว เลือกใช้กันได้ตามสภาพผิวและความชอบได้เลยค่ะ อย่าลืมติดตาม All Things Beauty กันนะคะ ยังมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการดูแลผิวอีกหลายอย่างมาฝากกันค่ะ