8 วิธีดูแลผมสวย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปด้วยพร้อมๆ กัน

วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่ง ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ก็คงพอรู้ว่าปัญหาด้านขยะพลาสติก ภาวะโลกร้อน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จริงอยู่ที่เราเพียงคนเดียวไม่อาจกู้โลกทั้งใบได้ แต่เราก็เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่จะทำให้โลกดีขึ้นได้ แค่เริ่มต้นง่ายๆ จากชีวิตประจำวันของตัวเราเอง

ในฐานะที่ All Things Beauty เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมทุกเรื่องราวเกี่ยวกับผมอยู่แล้ว และเราก็ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงอยากมาแบ่งปันวิธีดูแลผมสวย ที่ทำได้ไม่ง่าย แต่สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย มาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะมีวิธีไหนกันบ้าง

วิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดในการใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการดูแลเส้นผมก็คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นออแกนิค หรือทำจากส่วนผสมที่สร้างความยั่งยืนให้กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจะยิ่งดีใหญ่ถ้าเราเลือกสนับสนุนโปรดัคส์ หรือแบรนด์ที่มีกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และใช้บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมารียูส รีไซเคิลหรือย่อยสลายได้

ปกติแล้วใครก็ชอบเส้นผมที่สะอาดสดชื่น และติดนิสัยการสระผมเป็นประจำทุกวัน เราก็ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำได้ในขั้นตอนล้างผม โดยเราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำปริมาณมากๆ เพื่อล้างแชมพูให้สะอาด แค่ลองลดปริมาณแชมพูที่ใช้สระผมลง หรือสระผมเพียงครั้งเดียว ก็สามารถลดปริมาณน้ำที่ใช้ในการทำความสะอาด รวมถึงลดปริมาณน้ำเสียจากการสระผมลงด้วย

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ การใช้ดรายแชมพูสลับกับการสระผมด้วยน้ำ ซึ่งเราสามารถใช้ดรายแชมพูดติดต่อกัน 2-3 วันได้ แม้จะไปออกกำลังกายหรือเจอมลภาวะและเหงื่อออกทุกวัน เพราะดรายแชมพูช่วยดูดซับความมันของเส้นผมและหนังศีรษะ รวมทั้ง ปกป้องเส้นผมจากความชื้น จึงทำให้เรารู้สึกสะอาดสดชื่นคล้ายการสระด้วยแชมพูปกติ

การใช้ดรายแชมพู ทำให้เราไม่จำเป็นต้องสระและไดร์ผมทุกวัน ไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำแต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อีกทางหนึ่ง

รู้หรือไม่ว่า หากคน 50 คน ล้างครีมนวดผมเร็วขึ้นสัก 10 วินาที จะช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 9000 ลิตรเชียวนะ!

เช่นเดียวกับการลดปริมาณแชมพูที่ใช้ลง การใช้ครีมนวดผมให้น้อยลงก็ช่วยประหยัดน้ำดีและลดการผลิตน้ำเสียได้มากขึ้น

นอกจากนั้นแล้ว หลังสระผมด้วยแชมพู คุณอาจเลือกใช้ครีมนวดผมแบบไม่ต้องล้างออก แทนครีมนวดผมแบบที่ต้องล้างด้วยน้ำ วิธีนี้ก็ช่วยให้เราประหยัดการใช้น้ำไปได้อีกมากทีเดียวค่ะ

ผลิตภัณฑ์ประเภท Cleansing Conditioner จะมีส่วนประกอบของคอนดิชันเนอร์มากกว่าแชมพู เวลาใช้สระผมก็จะไม่มีฟองด้วย ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดและบำรุงผมภายในขั้นตอนเดียว จึงทำให้เราใช้เวลาในการสระผมที่เร็วขึ้น นั่นก็หมายความว่าเราจะใช้น้ำน้อยลงตามไปด้วยนั่นเอง

การสระผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ ที่ไม่ต้องใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดพลังงาน ทั้งยังดีต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคุณอีกด้วย เพราะน้ำอุ่นจัดจะชะล้างน้ำมันที่มีตามธรรมชาติของเส้นผมและหนังศีรษะให้หลุดออกไปมากเกินไป รวมถึง ครีมนวดผมที่เราใช้ด้วย เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หนังศีรษะแห้งและลอก รวมถึง ทำให้ผมแห้งเสีย เปราะขาดได้ง่าย และอาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติอีกด้วย

ถ้าต้องการช่วยโลกด้วยไอเดียที่สร้างสรรค์ แทนที่จะทิ้งขวดเปล่าของแชมพูหรือครีมนวดลงถังขยะ ก็ให้ใช้วิธี Upcycle แทน หรือกระบวนการแปลงวัสดุเหลือใช้ หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้งานตามหน้าที่เดิม ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประโยชน์ มีมูลค่าเพิ่ม หรือมีความสวยงามเพิ่มขึ้น

โดยเราอาจจะนำขวดมาตัด แล้วทำเป็นที่ใส่แปรงสีฟัน หรือ จะเอาไปเป็นกระถางต้นไม้อันเล็กๆ ก็ได้ เรียกได้ว่าสร้างสรรค์แถมยังช่วยสิ่งแวดล้อมได้อีกต่างหาก

นอกจากนั้นแล้ว การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลาสติกให้น้อยลง และยังประหยัดกว่าการซื้อผลิตภัณฑ์ขนาดกลางหรือเล็กมาใช้บ่อยๆ ด้วย

รู้หรือเปล่า? ว่าการนำขวดแชมพู 1 ขวดไปรีไซเคิล จะช่วยประหยัดพลังงานได้เท่ากับการปิ้งขนมปังถึง 3 รอบเลยทีเดียว ดังนั้นการนำเอาขวดเก่ามาใช้ซ้ำ และใช้วิธีรีฟิล ก็จะเป็นการลดจำนวนขยะพลาสติกได้อีกทางหนึ่ง แถมยังช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยนะ

วิธีนี้ก็ไม่ต่างกับการสระผมให้น้อยลง เพราะการทำผมโดยไม่ใช้ความร้อนเลย ก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้ เราสามารถทำผมด้วยการ DIY ข้าวของเครื่องใช้ใกล้ตัว หรือแม้แต่การดัดผมลอนด้วยการถักเปียหรือติดกิ๊บทิ้งไว้ข้ามคืน ก็ทำให้เราได้ลอนสวย โดยไม่ต้องใช้ความร้อนเช่นกัน แถมยังช่วยถนอมเส้นผม ไม่ทำให้แห้งเสียเร็วอีกด้วย

แต่อย่างไร ถ้าต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ทำผมที่ต้องใช้ความร้อม ไม่ว่าไดร์หรือที่หนีบผม ก็อย่าลืมเลือกแบบที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ

ถึงแม้เราจะไม่ได้มีเวลาหรือมีโอกาสออกไปร่วมเดินขบวนหรือทำกิจกรรมต่างๆ โดยตรง แต่เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมได้แม้อยู่บ้านและยังทำได้ทุกวันอีกด้วย เริ่มแค่การปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันของเรา และถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมชวนคนอื่นให้หันมาสนใจปัญหาและแบ่งปันวิธีรักษาสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะคะ

หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้ามีคนร่วมมือร่วมใจทำสิ่งเดียวกันมากๆ ก็ย่อมสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างให้กับโลกใบนี้ เช่นเดียวกับที่เกรตา ธันเบิร์กเคยทำสำเร็จในการปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมของผู้คนจำนวนมากมาแล้วเช่นกันค่ะ