เคล็ดลับและแรงบันดาลใจ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเส้นผมของยูนิลีเวอร์
สกินเฮด (Skinhead) เป็นทรงผมสั้นชาย ที่มีลักษณะสั้นเกรียนติดหนังหัว โดยใช้ปัตตาเลียนไถผมให้สั้นเท่ากันทั้งศีรษะ ประวัติของผมทรงสกินเฮดเริ่มทำกันครั้งแรกในช่วงยุคปลาย 60s ในประเทศอังกฤษ โดยได้รับอิทธิพลมาจากพวกรู้ดบอยส์ในเวสต์อินดีส์และพวกม็อด และยังเป็นทรงหัวเกรียนยอดนิยมตั้งแต่นั้นมา
ต่อมา สกินเฮด เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งทำกันในหมู่อาชีพทหาร โดยแพร่หลายมายังยุโรป อเมริกา และเอเชีย ซึ่งในปัจจุบันสกินเฮดก็ได้กลายเป็นแฟชั่นทรงผมสไตล์หนึ่ง และมีการปรับรูปแบบให้มีความหลากหลายมากขึ้น
เรียกได้ว่าทรงผมสกินเฮดมีประวัติมายาวนาน และในช่วงที่ผ่านมาสกินเฮดก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ทีเดียว นั่นคงเพราะเป็นเทรนด์ฮิตด้วยส่วนหนึ่ง รวมถึงการพัฒนาสกินเฮดให้มีลักษณะพิเศษเพิ่มเติมแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแกะลาย (Hair tattoo) และการประยุกต์ใช้ร่วมกับผมทรงอื่นๆ ได้ด้วย เช่น Undercut , Fade และ Crop
นอกจากนี้ด้วยสไตล์ที่มีความสั้น จึงทำให้จัดทรงและดูแลได้ง่าย จึงทำให้สกินเฮดเป็นหนึ่งในทรงผมผู้ชายนิยมทำกันมากที่สุด และเห็นในคนทุกรุ่นทุกวัยเลยทีเดียว
แต่หลายคนอาจจะยังเข้าใจว่าทรงสกินเฮดนั้นเหมือนกันหมด ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทรงผมสกินเฮดยังมีหลายระดับ และยังมีดีเทลที่แตกต่างกันออกไปอีก ซึ่งเราจะมาอธิบายให้เห็นภาพกันแบบชัดๆ
สกินเฮดแบบนี้ คือ การตัดผมให้สั้นเตียนที่สุด แต่ไม่ต้องโกนผมทั้งศีรษะ ซึ่งเริ่มแรกนิยมทำกันสำหรับทหารที่เพิ่งเข้ากองทัพ และทำกันมากในประเทศสหรัฐอเมริกา วัตถุประสงค์แรกเริ่มของผมทรงนี้คือ การรักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงการติดโรคที่อาจเกิดขึ้นภายในกองทัพทหาร
ปัจจุบัน การตัดสกินเฮดแบบนี้ ได้รับความนิยมไม่เฉพาะในหมู่ทหารอย่างเดียวแล้วเท่านั้น เพราะ สกินเฮด ได้กลายมาเป็นแฟชั่นของเหล่าศิลปินนักร้อง และด้วยสไตล์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของทรงสกินเฮด จึงทำให้เหล่าวัยรุ่นต่างนิยมตัดผมทรงสกินเฮดกันเป็นอย่างมาก
Editor’s pick: ผมทรงสกินเฮดนั้น เป็นทรงที่แทบไม่ต้องเซ็ตเลย เพราะความที่ผมสั้นเตียนจนเกือบติดหนังศีรษะ ดังนั้น การดูแลหนังศีรษะให้สะอาด และปราศจากรังแคจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ผลิตภัณฑ์ที่เราแนะนำจึงเป็นแชมพูที่ช่วยทำความสะอาดและบำรุงหนังศีรษะให้สะอาด สดชื่น อาทิ เคลียร์ เมน แชมพูขจัดรังแคสูตร คูลสปอร์ต เมนทอล หรือ เคลียร์ เมน แชมพูขจัดรังแคสูตร ดีพคลีนส์ สองสูตรเฉพาะสำหรับผู้ชาย ไบโอนูเทเรียม 10 ที่ผสานไปด้วยวิตามิน สารบำรุงผม และสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ช่วยบำรุงหนังศีรษะอย่างล้ำลึก* พร้อมปกป้องจากรังแคได้ยาวนานกว่า**
Credit: @isaac_themanor , @nickbarford
หากอยากให้ศีรษะของคุณดูสวยมากขึ้น การใช้เทคนิคตัดสกินเฮดแบบนี้ก็สามารถช่วยได้ เพราะสกินเฮดสไตล์นี้จะปล่อยให้เส้นผมมีความยาวงอกขึ้นมาเล็กน้อย โดยไม่ตัดให้สั้นจนติดหนังศีรษะจนเกินไป
เพราะการตัดสกินเฮดที่สั้นเตียนติดหนังศีรษะ จะทำให้เห็นส่วนชัดจางของความไม่เรียบเนียนบนศีรษะ เพราะอาจมีบางส่วนที่เป็นหลุม และบางส่วนที่นูนขึ้นมา ดังนั้นการปล่อยให้ สกินเฮด มีความยาวขึ้นมาเล็กน้อย จะช่วยปิดบังจุดบกพร่องในส่วนต่างๆ ของศีรษะได้ดี
สกินเฮดแบบนี้จะเป็นการไถเปิดด้านข้างแบบไฮเฟดหรือสกินเฟด และจะปล่อยให้ผมด้านบนมีความยาวกว่าเล็กน้อย
ข้อดีของสกินเฮดแบบนี้คือ คุณสามารถไว้ผมยาวด้านบน หรือ ตัดออก เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ในแบบต่างๆ ได้ตลอด เป็นสกิดเฮดอีกทรงหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
สกินเฮดแบบเปิดข้าง เป็นการไถผมด้านข้างศีรษะให้สั้นเกรียนจนเกือบติดหนังศีรษะ (เกือบเหมือนโกนผม แต่ยังเหลือความยาวเอาไว้เล็กน้อย ประมาณ 0.5 ซม.) โดยมักจะเฟดไล่ระดับด้านข้างให้เป็น High Fade หรือ Mid Fade และจะเหลือความยาวผมด้านบนไว้เอาไว้มากหน่อย ซึ่งการไถไล่ระดับผมด้านข้างที่สั้นติดหนังศีรษะแบบนี้ จึงมักเรียก สกินเฟด
ตัวอย่างของการตัดสกินเฮดแบบเปิดข้าง เช่น การทำมิดสกินเฟดและไว้บน (Mid Skin Fade + Long Top) โดยทรงนี้จะไถสกินเฟดผมด้านข้างให้สูงระดับรองทรงกลาง แล้วเหลือผมส่วนด้านบนไว้ยาวเล็กน้อย (ประมาณ 1-1.5 ซม.)
สกินเฟดสูงกับมินิควิฟฟ์ (High Skin Fade + Mini Quiff) สกินเฮดแบบเปิดข้างสไตล์นี้ จะไถผมด้านข้างและเฟดเกือบติดหนังศีรษะให้เป็นรองทรงสูง แต่ผมด้านบนไว้ยาว (ประมาณ 1-2 ซม.) โดยเฉพาะผมด้านหน้าที่จะยาวกว่าส่วนอื่นๆ แล้วเซ็ตให้เป็นทรงตั้งเฉพาะด้านหน้าแบบ Quiff จะได้ทรงผมกึ่งวินเทจเท่ๆ แบบนี้
Credit: @barberjapan 1 & 2
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘สกินเฮดรองทรง’ มาก่อน ซึ่งความหมายของรองทรงก็คือการ ไล่เฟด นั่นเอง เพราะสกินเฮดทรงนี้จะไม่ตัดผมให้ยาวเท่ากันทั้งศีรษะ แต่จะมีการไล่เฟดด้วย ซึ่งก็จะเป็นพวกทรง Crew cut นี่แหละ
โดยผมด้านบนจะดูยาวมากกว่าผมด้านล่าง และก็มีใช้ฟันรองตัดผมเป็นขั้นๆ ตั้งแต่เบอร์ 0 ไปจนถึงเบอร์ 3 (ขึ้นอยู่กับการออกแบบของช่าง) แล้วจึงใช้ปัตตาเลี่ยนการไล่เฟดเชื่อมเงาอีกที
ถือเป็นการตัดผมสั้นเกรียนที่มีลูกเล่นให้สกินเฮดมากขึ้น โดยจุดเด่นของ Crew cut คือ การไล่เฟดความหนาจากผมด้านบนลงมาด้านล่างไล่ระดับอย่างสวยงาม โดยปล่อยให้ด้านข้างเป็นผมไถเตียน
ที่มาของ Crew cut คือ เป็นสไตล์ทรงผมที่ตัดสั้นเกรียนแบบทหาร และต่อมาได้มีการตัดมากขึ้นในหมู่นักเรียน นอกจากนี้การตัดสกินเฮดแบบ Crew cut ยังสามารถไว้ความยาวของผมด้านบน และปรับเปลี่ยนให้สไตล์ให้ออกมาแตกต่างกันได้หลากหลายแบบอีกด้วย
นอกเหนือจากระดับความยาวของผมแล้ว การตัดสกินเฮดยังสามารถเพิ่มกิมมิกหรือลูกเล่นให้กับทรงผมได้อีกหลายแบบด้วย
แบบแรกเป็นการทำ Hard Part หรือการเสาะร่องด้วยการใช้ปัตตาเลียนหรือมีดโกนไถให้เป็นเส้นตรงเล็กๆ ด้านข้างของทรงผม เหมือนเป็นร่องแสกข้างของผมหรือบางคนก็ทำเป็นรอยบากทั้งบนผมและคิ้ว ดูเท่ไปอีกแบบ
Credit: @nickbarford 1 & 2
ถ้าไถเป็นเส้นตรงเส้นเดียวดูไม่เท่พอ จะลองให้ช่างช่วยแกะลายเก๋ๆ บนทรงผมของคุณก็ได้ ยิ่งตัดสกินเฮด ความเด่นของลายที่แกะสลักก็ยิ่งมองเห็นชัดเจน แต่การแกะลายบนเส้นผมต้องอาศัยฝีมือเฉพาะด้านอยู่ไม่น้อย ดังนั้น ลองเลือกช่างที่ถนัดด้านแกะลาย แล้วลองปรึกษาเรื่องดีไซน์กันก่อน เพราะช่างบางคนก็อาจไม่ได้ถนัดทุกแนว จะได้รับประกันว่าจะออกมาตรงตามความต้องการของเราล่ะ
Credit: @barberjapan 1 & 2
อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ทรงผมสกินเฮดของคุณโดดเด่นได้ง่ายๆ ก็คือ การย้อมสีผม ซึ่งแม้ว่าจะผมสั้น แต่ก็รับรองว่าเด่นไม่แพ้คนไว้ผมยาวเลยล่ะค่ะ และแน่นอนว่าการทำสีก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะสีเดียวเท่านั้น แต่จะวาดลวดลายแบบไหนก็ได้ ตามแต่ความครีเอทีฟของช่างและความชอบของคุณเช่นกันค่ะ
Credit: @isaac_themanor , @nickbarford
ความสั้นยาวของสกินเฮดถูกแบ่งออกเป็น 13 ระดับ หรือ 13 เบอร์ ตามฟันรองของปัตตาเลี่ยน ไล่ไปตั้งแต่เบอร์ 0 (สั้นที่สุด) แล้วยาวขึ้นเป็นลำดับไปจนถึงเบอร์ 13 และระหว่างตั้งแต่เบอร์ 0-13 ก็ยังมีการแบ่งเพิ่มระดับทีละ 0.5 ด้วยเช่นกัน
โดยปกติแล้วทรงสกินเฮดมักจะเห็นถึงแค่เบอร์ 5 หรือที่ความยาวประมาณ 16 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่บางทีใช้ฟันรองเบอร์เดียวกัน แต่ผมอาจดูสั้นไม่เท่ากันเป๊ะๆ มันก็ขึ้นอยู่กับขนาดหวีที่ช่างเอามารองตัดด้วยเช่นกัน
ความยาวของทรงสกินเฮดที่นิยมตัดกัน จะใช้ฟันรองตั้งแต่เบอร์ 0-5 ซึ่งเบอร์ที่สูงกว่า เส้นผมก็จะมีความยาวเพิ่มขึ้นประมาณเบอร์ละ 3-4 มิลลิเมตร หรือถ้าอยากรู้ความยาวแบบเป๊ะๆ ตัวของฟันรองก็จะระบุไว้ ดังนี้
สกินเฮดเบอร์ 0 เป็นเบอร์ฟันรองที่ต่ำที่สุด ความยาวของเส้นผมที่ได้จะเท่ากับการโกน
สกินเฮดเบอร์ 1 เส้นผมจะยาวอยู่ที่ 3 มิลลิเมตร
สกินเฮดเบอร์ 2 เส้นผมจะยาวอยู่ที่ 6 มิลลิเมตร
สกินเฮดเบอร์ 3 เส้นผมจะยาวอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร หรือ 1 เซนติเมตร
สกินเฮดเบอร์ 4 เส้นผมจะยาวอยู่ที่ 13 มิลลิเมตร หรือ 1.3 เซนติเมตร
สกินเฮดเบอร์ 5 เส้นผมจะยาวอยู่ที่ 16 มิลลิเมตร หรือ 1.6 เซนติเมตร
ส่วนใหญ่คนที่ตัดสกินเฮด ก็มักจะให้ช่างใช้มีดโกนกันแนวผมด้วย เพื่อเป็นการจัดแต่งทรงให้มีขอบมีแนวที่ดูดี ทั้งด้านหน้าและด้านข้างไปจนถึงด้านหลังรวมถึงจอนด้วย เพื่อเป็นการตีกรอบหน้าให้ดูชัดเจนมากขึ้น แต่ถ้าใครชอบแนวธรรมชาติ หรือมีแนวงอกของผมที่ดูดีอยู่แล้ว ก็สามารถตัดขั้นตอนนี้ออกไปได้เลย
ส่วนการเสาะร่อง คือการใช้ปัตตาเลียนหรือมีดโกนค่อยๆ โกนผมออกเป็นแนว เพื่อให้เห็นเป็นเส้นที่ชัดเจน ส่วนใหญ่มักจะใช้เทคนิคนี้แนวผมแสกข้าง ที่นิยมเรียกว่า Hard Part ให้เห็นเป็นแนวแสกที่ชัดเจน
อีกสิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสกินเฮด ก็คือ รูปหน้าและรูปศีรษะ เพราะอย่าลืมว่ายิ่งผมสั้นมากเท่าใด ก็จะยิ่งเผยให้เห็นรูปหน้าและรูปทรงของศีรษะได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นคนที่มีรูปศีรษะแบน หรือบางส่วนที่ไม่เสมอกัน ไม่แนะนำให้ตัดสั้นเกรียนขนาดเบอร์ 0 แต่ควรเลี้ยงความยาวผมไว้สักเล็กน้อย เพื่อพรางส่วนเหล่านั้น
รวมถึงคนที่มีรูปหน้าทรงเหลี่ยมและกว้าง หรือหน้ากลม ก็อาจจะต้องประยุกต์สักหน่อย โดยการเพิ่มความยาวด้านบนให้มากกว่าด้านข้าง 1 เบอร์ เช่น ถ้าตัดด้านข้างเบอร์ 1 ด้านบนก็อาจจะขยับมาเป็นเบอร์ 2 เพื่อให้รูปหน้าดูเรียวยาวขึ้นอย่างมีมิติ
ลักษณะเส้นผมก็มีส่วนสำคัญทีเดียว อย่างเช่น คนผมหนาหรือหยักศก การตัดสกินเฮดเบอร์ 1 หรือ 2 ก็อาจจะดูไม่สั้นเกรียนเท่าไหร่ เพราะผมหยิกหนาจะมีลักษณะขดตัว กลับกันถ้าเป็นคนผมบางหรือเส้นเล็ก การตัดเบอร์ 1 หรือ 2 ก็อาจจะได้ผลลัพธ์เหมือนกับเบอร์ 0 ทางที่ดีจึงควรสื่อสารกับช่างก่อนจะตัดด้วยว่า เราชอบสั้นยาวประมาณไหน เพื่อให้ได้ทรงผมตรงตามความต้องการมากที่สุด
ได้รู้จักผมทรงสกิดเฮดกันมากขึ้นแล้ว ก็ลองเลือกและนำไปปรับให้เข้ากับสไตล์ผมสั้นของคุณกันดูนะคะ แล้วคุณอาจได้ทรงสกินเฮดที่มีเอกลักษณ์มากขึ้น และทำให้คุณหล่อ เท่ มีสไตล์ได้มากกว่าที่เคย