ปลดล็อคกลิ่นกาย ผู้ชายสายสปอร์ต ตัวหอมทั้งวัน

เรื่องกลิ่นตัว เรื่องใกล้ตัวที่เจอกันทุกวัน กลิ่นตัวหอมสดชื่น ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ แม้แต่ตัวเราเอง เพราะกลิ่นมีผลต่ออารมณ์ สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย เป็นหนุ่มสายสปอร์ต และกังวลเรื่องกลิ่นตัว ก็มีหลายวิธีที่เราจะมีตัวหอมทั้งวันได้ เพราะกลิ่นเหงื่อที่อยู่กับเราไม่นาน แต่กลิ่นตัวหอมนาน เราทำได้ ถ้าดูแลให้ตรงจุด

ก่อนอื่นรู้จัก สาเหตุของกลิ่นตัว เวลาออกกำลังกาย ออกแรง ทำกิจกรรมหรืออยู่ในที่ๆ อากาศร้อนอบอ้าว ต่อมเหงื่อที่มีอยู่ทั่วร่างกาย จะขับเหงื่อเป็นของเหลวออกมา เพื่อระบายอากาศ รักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้สมดุล ลำพังเหงื่ออย่างเดียวไม่มีกลิ่น แต่แบคทีเรียบนผิวทำปฏิกิริยากับเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นกาย เมื่อรวมกับปัจจัยอื่นๆ เช่น กลิ่นจากอาหารที่เรากิน กินจากภาวะร่างกายเป็นโรคบางอย่าง ทำให้เกิดกลิ่นที่อาจจะไม่ถูกใจคนรอบตัว

1.ใส่เสื้อผ้าที่สะอาดเอี่ยมเสมอ

ไม่ว่าก่อนหรือหลังออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เลือกใส่เสื้อผ้าชุดเข้ายิม หรือชุดกีฬา รวมถึง ถุงเท้า ที่ซักสะอาดเอี่ยม ป้องกันแบคทีเรียและเชื้อราหมักหมม และทำปฏิกิริยากับเหงื่อเพิ่มกลิ่นตัวรุนแรงสะสม

2.โกนขนรักแร้ อย่าปล่อยให้ขนดกรุงรัง เป็นแหล่งซ่องสุมแบคทีเรียตัวกินเหงื่อสาเหตุกลิ่นตัว โดยเฉพาะบริเวณที่มีเหงื่อออกมากอย่าง รักแร้

3. ดูแลความสะอาดเท้าอยู่เสมอ เพราะเหงื่อออกที่ฝ่าเท้า ง่ามนิ้วเท้า และการสวมถุงเท้ารองเท้าทำให้เกิดความอับชื้น กลิ่นตัวแรงๆมาจากกลิ่นเท้าร่วมด้วย

4.ใส่รองเท้าสะอาดปราศจากกลิ่นอับ ทำความสะอาดรองเท้ากีฬา ถุงเท้าสม่ำเสมอ ป้องกันเชื้อรา เกิดกลิ่นอับชื้นติดตัว หรือเท้าเหม็นได้ง่าย

5. กินอาหารที่พอเหมาะ เพราะอาหารบางอย่าง กินมากไป จะทำให้เกิดกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์ได้ กลิ่นตัวที่มาจากการกินอาหารบางชนิดมากเกินไป อาทิ

คนที่กินเนื้อสัตว์มากเกินไป อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวตุๆ คล้ายไข่เน่า

คนที่กินอาหารหมักที่มีเชื้อแบคทีเรียผสมกับโปรตีนมากไป อย่าง ปลาร้า แหนมดิบ กลิ่นตัวจะมีกลิ่นคาวปลา

6. เลี่ยงเครื่องดื่ม ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว โดยเฉพาะคนที่แอลกอฮอล์จัด จะมีกลิ่นเหล้าเบียร์แอลกอฮอล์ติดตัว แม้สร่างเมาไปนานแล้ว ซึ่งเป็นสัญญานบอกถึงร่างกายขับพิษจากแอลกอฮอล์ได้น้อยลง เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพตับด้วย

7. ตรวจเชคร่างกายสม่ำเสมอ เพราะ กลิ่นตัวเกิดจากโรคภัยบางอย่างได้ เช่น เบาหวาน ตับ โรคเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) จนถึง ลำไส้อักเสบ เป็นต้น ซึ่งถ้ามีปัญหากลิ่นตัวรุนแรง ควรพบแพทย์ เพื่อรักษาอย่างถูกต้อง

1. ทำความสะอาดร่างกายอย่างหมดจด สบู่ผิวกายควรใช้สูตรแอนตี้แบคทีเรีย

โดยเฉพาะในจุดเหงื่อออกมาก อย่าง รักแร้ สะดือ หัวเหน่า ขาหนีบ ข้อพับต่างๆ และบริเวณซอกใบหู

2. สระผมทุกครั้ง หลังเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย เพราะ ต่อมเหงื่อและแบคทีเรียจะอยู่ในบริเวณที่มีรูขุมขนและเส้นขนต่างๆบนร่างกาย

3. ล้างหน้าและซอกใบหูให้สะอาด สำหรับบริเวณซอกใบหู สามารถใช้โฟมล้างหน้า สูตรที่เหมาะกับผิวหน้าคุณผู้ชาย และช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกลดการอุดตันรูขุมขนได้ดี ฟอกเบาๆ ทั่วทั้งลำคอใบหน้า และซอกใบหู แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

4. ทำความสะอาดเท้า ง่ามนิ้วเท้าให้สะอาด เพราะเท้าเป็นจุดอับที่แบคทีเรียและเชื้อราสะสมได้ง่าย

5. ทาสารระงับเหงื่อ (แอนตีเรสไพแรนต์) ใต้วงแขน หลังอาบน้ำเช็ดตัวแห้งสะอาด เลือกสูตรที่มีฤทธิ์ระงับเหงื่อและผสมสารระงับกลิ่น (ดีโอโดแรนท์) เพื่อยับยั้งเหงื่อและช่วยพรางกลิ่นตัวจากเหงื่อได้อีกชั้น

6. สวมเสื้อผ้า ที่สะอาดไม่มีกลิ่นอับชื้น ลดการสะสมของแบคทีเรีย ถ้าเสื้อผ้าซักสะอาดกลิ่นหอม ยังช่วยเพิ่มกลิ่นตัวหอมสดชื่นได้อีกชั้นด้วยค่ะ

7. ทาครีมบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมติดตัว ถ้าเป็นการออกกำลังกายระหว่างวันและอยู่กลางแจ้ง ควร ทาครีมกันแดด ทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย แนะนำ ครีมกันแดดสูตร ผิวหอมนาน อย่าง ซิตร้า เซรั่ม กันแดด ฟลาวเวอร์ บลอสซั่ม เอสพีเอฟ 50 พีเอ++++ (Citra Serum Sunscreen Flower Blossom SPF50 PA++++) กลิ่นหอมละมุนของดอกไม้ หรือ ซิตร้า เซรั่ม กันแดด วอเตอร์เมลอน มิ้นท์ เอสพีเอฟ 50 พีเอ++++ (Citra Serum Sunscreen Watermelon Mint SPF50 PA+++) ที่มีกลิ่นสดชื่นของแตงโมผสมมินต์ ที่ปกป้องผิวจากรังสียูวีและยังมีส่วนผสมบำรุงผิว ที่ให้สัมผัสผิวเย็นสดชื่น ทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย

Editor’s Tip: สำหรับหนุ่มๆที่ชอบใช้ น้ำหอม การลงครีมบำรุงผิวให้ผิวชุ่มชื้นก่อนฉีดหรือแตะน้ำหอม จะช่วยให้กลิ่นตัวหอมยาวนานขึ้นได้ค่ะ

แต่ถ้าลองทุกอย่างที่ว่ามาหมดแล้ว กลิ่นตัวยังรุนแรง และเหงื่อยังออกมากจนผิดปกติ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอย่างตรงจุด เพื่อสุขภาพดี ผิวดี และกลิ่นตัวก็ดีด้วยค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงจาก เวบไซต์ รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา, webmd.com, thenations health.org

…