เคล็ดลับและแรงบันดาลใจ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเส้นผมของยูนิลีเวอร์
ในช่วงนี้ เมืองไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ยิ่งเมื่อบวกกับแสงแดด ฝุ่นควัน และสารเคมีต่าง ๆ ที่เราต้องเจอเป็นประจำด้วยแล้ว นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวตามมาแล้ว ก็ยังเป็นตัวการทำร้ายเส้นผม อาจนำไปสู่ปัญหาผมแห้งหยาบกระด้าง รังแค หรือผมร่วง อีกด้วย
การรวบเก็บผม โดยการมัดผม หรือถักเปีย จะช่วยลดการกักเก็บฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ที่จะสามารถเข้ามาเกาะติดเส้นผมได้ แต่แนะนำว่าให้มัดผมให้พอดีเท่านั้น การมัดผมหลวม ๆ อาจกักเก็บฝุ่นละอองในเส้นผมได้มากขึ้น แต่ถ้ามัดแน่นเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อรากผมได้
และการใส่หมวกก็ช่วยไม่ให้ฝุ่นละอองมาเกาะเส้นผมได้เช่นกัน แต่ก็ไม่ถึงกับต้องใส่ตลอดเวลา เพราะจะทำให้เหงื่อที่ออกไม่สามารถระบายความชื้นได้ ทำให้เส้นผมอับชื้นได้ แค่ใส่เฉพาะตอนออกไปเจอฝุ่นละอองหรือแสงแดดก็เพียงพอค่ะ
เพราะเส้นผมต้องเผชิญกับฝุ่นและมลภาวะมาทั้งวัน เราจึงไม่ควรปล่อยให้ฝุ่นละอองเกาะติดเส้นผมเป็นเวลานาน ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านจึงควรอาบน้ำและสระผมในทันที เพื่อลดการก่อตัวของแบคทีเรีย และล้างสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนบนหนังศีรษะให้สะอาด
สภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคนเรามีความแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่เราควรใช้แชมพูให้เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อดูแลบำรุงเส้นผมได้อย่างตรงจุดที่สุด และถ้าเป็นแชมพูสูตรดีท็อกซ์ก็จะยิ่งดีใหญ่ เพราะแชมพูสูตรพวกนี้จะช่วยล้างสารพิษ และกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างได้อย่างหมดจดค่ะ
ดีท็อกซ์ผม เป็นวิธีการที่จะช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมล้างสารพิษตกค้างบนเส้นผมออกไป อีกทั้งยังช่วยเสริมเกราะป้องกันให้เส้นผมของเรายังคงสวยและแข็งแรง แม้จะต้องเจอกับมลพิษมากแค่ไหนก็ตาม
เบกกิ้งโซดา หรือ ผงฟู นอกจากจะใช้เป็นส่วนประกอบในการทำขนมได้แล้ว เรายังสามารถนำมาใช้ล้างสารพิษที่ตกค้างในเส้นผมได้ด้วย เพราะมันมีสารอะซิติกที่ช่วยล้างสารตกค้างได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น สารพิษจากสารเคมี หรือ มลภาวะต่างๆ ก็ตาม ผงฟูตัวนี้ก็จะช่วยล้างสารพิษออกไปได้หมดเลย
โดยวิธีการดีท็อกซ์ผมด้วยผงฟูก็ทำง่ายๆ เพียงแค่ใช้ ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ แชมพู 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำเปล่า 1 ถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปชโลมให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถช่วยล้างสารพิษตกค้างบนเส้นผมได้ รวมไปถึงยังช่วยลดอาการคันและระคายเคืองได้อีกด้วย
เพียงแค่ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1 ถ้วย และครีมนวดผม 2 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน แล้วนำมานวดลงบนเส้นผมและหนังศีรษะให้ทั่ว (แต่สำหรับคนที่มีผมมันให้นวดตั้งแต่กลางผมถึงปลายผมก็พอ) หมักผมทิ้งไว้ 2 นาที แล้วจึงค่อยล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น เท่านี้เส้นผมของเราก็จะรู้สึกสะอาดสดชื่นขึ้นในทันทีแล้วค่ะ
หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า ชาเขียวสามารถช่วยล้างสารพิษ และสิ่งสกปรกตกค้างในเส้นผมได้ แถมยังมีวิตามินสูง และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยให้เส้นผมของเรารู้สึกอ่อนวัยอีกด้วย
เพียงแค่นำใบชาเขียวมาแช่ในน้ำเปล่า แล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นใช้น้ำชาเขียวที่ได้มาล้างผมหลังจากสระผม และทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยล้างอีกทีด้วยน้ำเปล่า เท่านี้ก็จะช่วยกู้ผมแห้ง ไร้ชีวิตชีวา ให้กลับมาเด้งสวยเบาสบาย ทั้งยังช่วยชะล้างความมัน และสิ่งสกปรกผมเส้นผมได้อย่างดี
โยเกิร์ต นอกจากจะนำมารับประทานเพื่อดีท็อกซ์ลำไส้ได้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นสูตรดีท็อกซ์เส้นผมได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยขจัดความมันบนเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างอยู่หมัด และช่วยทำให้เส้นผมนุ่มลื่นมากขึ้น
เพียงนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ช้อนโต๊ะ ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาชโลมให้ทั่วเส้นผม โดยเน้นช่วงโคนผมเป็นพิเศษ ทิ้งประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ทำเพียงสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยลดความมันส่วนเกินบนเส้นผม และทำให้ผมดูสลวยสวยงาม ไม่พันกัน
อีกหนึ่งวัตถุดิบยอดนิยมที่ใครๆ ก็ชื่นชอบก็คือ น้ำมันมะพร้าว ซึ่งมันมีคุณประโยชน์ในแง่การบำรุงเส้นผมมากมาย หนึ่งในนั้นคือการทำความสะอาดเส้นผม เสมือนเป็นการล้างสารพิษและสิ่งสกปรกตกค้าง จึงทำให้เส้นผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
โดยขั้นตอนของการดีท็อกซ์ผมด้วยน้ำมันมะพร้าว เริ่มจากการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น จากนั้นซับผมให้แห้งพอประมาณ แล้วจึงค่อยนวดผมด้วยน้ำมันมะพร้าว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดผมตามปกติ เพียงเท่านี้เส้นผมและหนังศีรษะก็จะสะอาดสดชื่น และดูนุ่มสวยเงางามขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การดีท็อกซ์ล้างสารพิษตกค้างในเส้นผมออก จะช่วยให้ผมสามารถรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก และมองหาทางลัดที่จะช่วยให้การดีท็อกซ์ผมง่ายและสะดวกมากขึ้น ก็สามารถหันมาพึ่งการใช้แชมพูสูตรดีท็อกซ์ได้เช่นกัน
แชมพูที่กองบรรณาธิการของ ATH แนะนำ ตัวแรกคือ โดฟ ดีท็อกซ์ นอริชเม้นท์ แชมพู ซึ่งผสานไมเซล่าเทคโนโลยี ช่วยล้างสิ่งสกปรกและความมันออกจากหนังศีรษะได้ดี และมาพร้อมกับ พิงค์ ซอล์ท หรือ เกลือชมพูจากเทือกเขาหิมาลัย ที่ช่วยดีท็อกซ์ฝุ่นควันและมลภาวะ และบำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้นไม่แห้งเสีย
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ สำหรับดีท็อกซ์ผมเองได้ที่บ้าน คือ แชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติจากขิงและชาเขียว อย่าง เทรซาเม่ ซาลอน ดีท็อกซ์ แชมพู พร้อมส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยสกัดจากขิงและชาเขียว ไม่ใส่สี และพาราเบน ช่วยขจัดสิ่งสกปรก พร้อมให้สารบำรุงแก่เส้นผม และเป็นสูตรที่สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน แนะนำให้ใช้ควบคู่กับครีมนวดผม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผมนุ่มสวย และดูเงางามยิ่งขึ้น
แต่สำหรับใครที่ผมเจอมลพิษจนทำให้ผมแห้งเสียชี้ฟูมากๆ แนะนำให้บำรุงผมเพิ่มด้วยครีมนวดผม ลีฟออน หรือ มาส์ก อย่างเช่น โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ 1 มินิท ซุปเปอร์ คอนดิชันเนอร์ ครีมนวดผมที่มีเซรั่มแคปซูล ทำให้ซึมซาบเร็ว บำรุงผมได้ลึกถึง 10 ชั้น เรียกได้ว่าจบผมเสียใน 1 นาที เห็นผลได้ทันทีหลังใช้ว่าผมที่เคยหยาบกร้านชี้ฟู จะกลับมานุ่มลื่นน่าสัมผัส
ซันซิล คอลลาเจน ฟิลเลอร์ ซุปเปอร์ คอนดิชันเนอร์ พาวเวอร์ไชน์ ช่วยบำรุงผมของคุณอีกขั้น ด้วยคอลลลาเจนฟิลเลอร์และซุปเปอร์ไชน์คอมเพล็กซ์ คงความชุ่มชื้น เปลี่ยนผมแห้งหยาบให้นุ่มลื่นเปล่งประกาย เปล่งประกาย
สิ่งสกปรก ฝุ่น และควันรถ ที่เราต้องเจออยู่ทุกวันนั้นทำร้ายเส้นผมของเราโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น การดูแลเส้นผมให้สะอาดและดีท็อกซ์ผม จะช่วยให้เส้นผมสวยสุขภาพดีจะได้กลับคืนมา พร้อมมีเกราะป้องกันที่จะไปต่อสู้กับมลภาวะที่เราต้องเจอในอนาคตด้วย