Editor's choices: แนะนำ เซรั่มบำรุงผม และวิธีใช้เซรั่มสยบปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู อย่างได้ผล

ถ้าช่วงนี้ลองสัมผัสเส้นผมแล้วรู้สึกถึงความกระด้าง ไม่นุ่มลื่น มองดูไม่เงางาม หรือเจอปัญหาผมยุ่ง ชี้ฟู จัดทรงยาก อาจเป็นเพราะเส้นผมสูญเสียความชุมชื้นมากกว่าปกติ และทำให้เกิดปัญหาผมแห้ง ซึ่งสภาวะนี้อาจเป็นเพียงชั่วคราว แต่หากปล่อยไว้นาน เส้นผมอาจอ่อนแอลง ซึ่งจะแก้ไขได้ยากขึ้น ดังนั้น หากเริ่มสังเกตว่าผมแห้งกว่าปกติ ก็หันมาดูแลผมกันให้มากขึ้นอีกนิดนะคะ

ผมแห้งนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าเพราะโดนความร้อนมากเกินไป การทำเคมี สภาพแวดล้อม และกรรมพันธุ์ รวมไปถึงเส้นผมมีการผลิตไขมันลิพิดที่ช่วยบำรุงเส้นผมได้ไม่เพียงพอ ดังนั้น การเพิ่มปริมาณไขมันและคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ก็จะช่วยลดปัญหาผมแห้งได้

ถ้าเส้นผมของคุณแห้งเสียมากจากการโดนความร้อน หรือทำเคมี รวมทั้งมีปัญหาผมชี้ฟู หนึ่งในเคล็ดลับในการแก้ปัญหาผมแห้งชี้ฟูจากบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมของเราก็คือ การใช้ เซรั่มบำรุงผม เป็นประจำ เพราะเซรั่มที่ดีจะมีน้ำมันจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงและป้องกันผมจากการเปราะขาด และช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมที่แห้งเสีย จึงช่วยทำให้ผมชี้ฟูน้อยลง และจัดทรงง่ายขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อเส้นผมนี้ ยังช่วยเป็นเกราะปกป้องจากการเผชิญมลภาวะทั้งฝุ่น ควัน และแสงแดด ที่ล้วนเป็นสาเหตุทำร้ายผมที่เคยนุ่มสลวยให้กลับแห้งกร้านและมีปัญหา ฟื้นคืนสู่ผมมีสุขภาพดี เปล่งประกายเงางาม

ถ้ารู้สึกว่าลงเซรั่มมากจนเกินไปจนผมหรือหนังศีรษะมัน ลองใช้กระดาษทิชชู่หนาๆ ซับเซรั่มออกให้มากแล้วใช้ดรายแชมพูฉีดลดความมันส่วนเกินออกไป อาจใช้ไดร์เป่าผมเบาๆ และหวีซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าเส้นผมไม่ติดเป็นก้อนหรือเป็นคราบ

การใช้เซรั่มบำรุงผมให้ถูกวิธี ก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ให้กระจายตัวให้ทั่วเส้นผมให้ได้มากในปริมาณที่เหมาะสม ยิ่งถ้าคุณเป็นคนผมหนาหรือผมยาว การแค่ลูบเซรั่มลงบนผมอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าไปถึงผมทุกส่วนอย่างที่ต้องการ เรามาลองดูขั้นตอนการลงเซรั่มลงบนผมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดกันดีกว่าค่ะ

ก่อนการใช้เซรั่ม แนะนำให้หวีผมให้เรียบร้อย อย่าให้ผมพันกัน แล้วเริ่มแบ่งผมออกเป็น 2-3 ส่วน ซึ่งส่วนของเส้นผมที่ต้องการการบำรุงและความเรียบตรง คือ ส่วนกลางไปจนถึงส่วนปลายผม และเว้นส่วนโคนผมเอาไว้ เพราะการลงเซรั่มใกล้หนังศีรษะ ความเข้มข้นของเซรั่ม จะทำให้หนังศีรษะมันหรืออุดตันรูขุมขนได้ง่าย

ผมที่ยังไม่ได้ลงเซรั่มให้หนีบเก็บเอาไว้ จากนั้นกดเซรั่มประมาณ 1 ปั๊ม หรือ 1 หยด ลงบนฝ่ามือ แนะนำให้ทิ้งเซรั่มไว้ประมาณ 5-6 วินาทีเพื่อวอร์มเนื้อเซรั่มเล็กน้อย แล้วค่อยถูให้เซรั่มกระจายทั่วฝ่ามือ จากนั้นค่อยๆ ลูบเซรั่มลงบนผมแต่ละส่วน โดยเริ่มจากกลางผมแล้วลูบตรงลงมาจนถึงส่วนปลาย หากปลายผมแห้งมาก อาจเน้นบริเวณนั้นเป็นพิเศษ

เมื่อลูบเซรั่มจนหมดจากฝ่ามือแล้ว จึงค่อยกดเพิ่มและทำซ้ำแบบเดิมจนทั่ว ใช้หวีหรือแปรงค่อยๆ หวีซ้ำให้ทั่ว ไม่ให้มีผมพันกัน วิธีนี้ จะช่วยให้เราลงเซรั่มกระจายได้ทั่วเนื้อผมมากขึ้น และยังช่วยคุมปริมาณเซรั่มที่ใช้ให้พอดีกับปริมาณผมของเรา

เซรั่มใช้ได้ทั้งตอนผมเปียกหมาดและผมแห้ง แต่ควรใช้กับผมที่เพิ่งผ่านการสระทำความสะอาดมา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำหน้าที่บำรุงผมได้ดี เพราะถ้าใช้เซรั่มในตอนที่ผมมีเหงื่อหรือเจอฝุ่นละออง อาจทำให้ผมเหนียวเป็นคราบและผมมันได้

ถ้าใช้เซรั่มตอนที่ผมเปียกและก่อนไดร์ผม อาจเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นเล็กน้อย เพื่อทำให้ผมดูเงางามเป็นพิเศษ ส่วนการใช้เซรั่มหลังไดร์หรือหนีบผม จะช่วยเก็บเส้นผมให้เรียบเนียนและไม่มีผมชี้หรือผมดีด แต่ไม่ว่าจะใช้เซรั่มตอนผมแห้ง หรือ ผมเปียกก็ได้ประสิทธิภาพพอๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้เซรั่มเพื่อจัดทรง หรือใช้เพื่อเคลือบและบำรุงเส้นผม

Editor’s Tip: สำหรับคนที่มีปัญหาผมพันกันหรือชี้ฟู แนะนำให้ใช้เซรั่มลงตั้งแต่ก่อนไดร์ผม โดยหลังสระผม ใช้ผ้าซับน้ำออกให้ผมพอเปียกหมาดแล้วจึงลงเซรั่มให้ทั่ว จากนั้น ใช้หวีซี่ห่างหรือแปรงเปียกค่อยๆ หวีเส้นผมเพื่อไม่ให้พันกันก่อนเป่าไดร์ เซรั่มจะช่วยทำให้เส้นผมเรียบลื่น มีน้ำหนักมากขึ้น ช่วยลดการชี้ฟูและจัดทรงได้ง่ายขึ้นค่ะ

การใช้เซรั่มเป็นหนึ่งในตัวช่วยลดผมแห้งชี้ฟู แต่ก็ยังเป็นการดูแลที่ค่อนมาทางปลายเหตุ และหากขาดการดูแลในด้านอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะเห็นผลที่ช้ากว่าที่คุณอยากให้เป็น ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาผมชี้ฟูอย่างถาวร เราแนะนำว่าคุณควรบำรุงผมด้วยวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย

การดูแลเส้นผมให้กลับมาสวยดูมีสุขภาพดีต้องใช้เวลาและความใจเย็น แม้ว่าเซรั่มจะช่วยจัดการเรื่องปัญหาผมชี้ฟูได้อย่างรวดเร็ว เพราะทำให้ผมเรียบลื่นและมีน้ำหนักขึ้น แต่สำหรับเส้นผมที่แห้งเสียมาก การฟื้นคืนสภาพผมเสียไม่สามารถทำได้ในไม่กี่นาที ดังนั้น นอกจากการใช้เซรั่มบำรุงผมอย่างต่อเนื่องแล้ว ควรดูแลเส้นผมด้วยการใช้ครีมนวดผมหรือคอนดิชันเนอร์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม และดูแลเส้นผมด้วยทรีตเมนต์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง