3 พฤติกรรมที่คุณควรหลีกเลี่ยง เพราะทำให้ผมแห้งเสียชี้ฟู

แต่รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมบางอย่างที่คุณทำในชีวิตประจำวัน อาจทำให้ผมของคุณเสียได้โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะที่คุณต้องเจอทุกวัน กระบวนการทางเคมี เช่น การดัดผมถาวร การทำสีผม การยืดผม และความร้อนจากการจัดแต่งทรงผม รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เส้นผมของคุณอ่อนแอลงทุกวัน

เส้นผมที่ถูกทำร้ายอยู่เป็นประจำ อาจแสดงออกให้เห็นหลายรูปแบบ เช่น ผมแห้ง เปราะหักง่าย ไม่เงางาม และแตกปลาย เพราะเส้นผมที่ถูกทำร้ายจะสูญเสียความเงางามตามธรรมชาติ หรือให้สัมผัสที่แห้งสาก และจัดแต่งทรงยากอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้เส้นผมสวยสุขภาพดีได้อยู่กับเราไปนานๆ เราจึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างที่เป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำร้ายเส้นผม ดังนี้

ไฟฟ้าสถิตนั้นเกิดจากอากาศที่มีความชื้นต่ำ เมื่อเจอกับผมที่แห้ง ก็จะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นได้ โดยผมชี้ฟูที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตนั้น มักเกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงที่ฤดูหนาว เพราะมีอากาศค่อนข้างแห้ง ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงและป้องกันไฟฟ้าสถิตที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นผม โดยวิธีเหล่านี้

การใช้หวีไม้แทนหวีพลาสติก เพราะหวีพลาสติกที่ใช้ก่อให้เกิดปัญหาไฟฟ้าสถิต แทนที่จะหวีแล้วเรียบ กลับดึงผมให้ฟูชี้ติดหวีออกมาด้วย ดังนั้นการเลือกใช้หวีที่ทำจากไม้ จะช่วยลดการเสียดสีต่อเส้นผมที่เกิดขึ้นระหว่างการหวีผม เพราะหวีไม้นั้นไร้ประจุไฟฟ้า และยังช่วยถนอมเส้นผมของคุณอีกด้วย

ใช้ครีมนวดทุกครั้งที่สระผม เพราะการใช้ครีมนวดจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และช่วยปิดเกล็ดผม ซึ่งจะป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นในเส้นผมมากขึ้น

Editor’s pick: ขอแนะนำ โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ คอนดิชันเนอร์ ครีมบำรุงที่มาพร้อม เคราติน รีแพร์ แอคทีฟส์ ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผมเสียอย่างล้ำลึกทั้งภายนอกภายใน ช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้เส้นผม และยังช่วยให้ผมเรียบลื่น จัดทรงง่าย ไม่พันกัน

ด้วยลักษณะของเส้นผมของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ความหนาของเส้นผมที่แบ่งออกเป็น ผมเส้นเล็ก, เส้นปกติ และผมเส้นใหญ่ รวมถึงลักษณะโดยทั่วไปที่แบ่งเป็น ผมตรง, ผมลอน, ผมหยักศก และผมหยิกขอด ซึ่งเส้นผมแต่ละประเภทนั้นก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกัน อาทิ ผมเสีย, ผมแห้ง, ผมผ่านการทำเคมี หรือ ผมทำสี, ผมชี้ฟู, ผมลีบแบน, เส้นผมบาง และปัญหารังแค

จะเห็นได้ว่าแต่ลักษณะและปัญหาของเส้นผมมีความแตกต่างกัน การดูแลรักษาจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะสำหรับทุกสภาพเส้นผมของคุณ เพราะหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพเส้นผม ก็นับเป็นสิ่งที่ทำร้ายผมได้เช่นกัน

ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของเรา ไม่ว่าจะเป็น แชมพู, ครีมนวดผม หรือทรีตเม้นท์มาส์กต่างๆ โดยเริ่มจากการสังเกตว่าเรามีลักษณะเส้นผมอย่างไร จึงค่อยเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม เช่น หากคุณเป็นคนที่ผมแห้ง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑท์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือหากคุณเป็นคนที่ผมเสียเนื่องมาจากการทำสี การดัด การยืด ก็ไม่ควรใช้แชมพูที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือรสเปรี้ยว อย่างเช่นแชมพูที่มีส่วนผสมมาจาก มะกรูด มะนาว หรือมะเฟือง เพราะจะทำให้ผมแห้งมากยิ่งขึ้น แต่ควรเลือกใช้แชมพูที่ช่วยคืนความนุ่มชุ่มชื่นให้กับเส้นผม ที่สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึก และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน เพราะยิ่งจะทำให้ผมแห้งและชี้ฟูมากกว่าเก่า

ถึงแม้หลายคนจะใส่ใจดูแลบำรุงเส้นผมด้วยวิธีต่างๆ มาโดยตลอด แต่รู้หรือไม่ว่าผม และผมชี้ฟู ยังเป็นปัญหาที่กลับมาเกิดขึ้นอยุูเป็นประจำ ซึ่งอาจมาจากพฤติกรรมการหวีผมแบบผิดๆ ดังนั้นการหวีผมที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมชี้ฟู มีดังนี้

เริ่มหวีผมจากปลายผม ไม่ควรเริ่มจากโคนผม เพราะการที่ปลายผมมีการพันกันมาก การที่หวีผมตั้งแต่ช่วงโคนผมลงมา ก็จะยิ่งทำให้ผมนั้นพันกันหนักเข้าไปอีก จากนั้นจึงค่อยๆ สางผมทีละนิดจากปลายผม แล้วจึงค่อยไล่ระดับขึ้นมาข้างบนเรื่อยๆ เพื่อลดปัญหาผมแห้งเสีย และป้องกันผมขาดหลุดร่วงได้อีกด้วย

การหวีผมบ่อยๆ ยิ่งทำให้เกิดการเสียดสีจนผมแห้งง่าย ทั้งยังทำให้เกล็ดผมเปิดขึ้น ซึ่งผมก็จะยิ่งอ่อนแอ และขาดง่ายในที่สุด

การหวีผมขณะที่ผมเปียก เพราะช่วงเวลาที่ผมเปียก คือ ช่วงเวลาที่ผมอ่อนแอมากที่สุด ดังนั้นเราจึงไม่ควรหวีในทันทีหลังจากสระผม แต่ควรจะปล่อยให้ผมแห้งไปก่อน แล้วจึงเริ่มหวี หรือหากต้องการหวีจริงๆ ก็ควรใช้หวีที่มีซี่ห่างๆ เพื่อถนอมเส้นผมไม่ให้ขาดหลุดร่วง

หากใครที่มีพฤติกรรมทำผมเสียเหล่านี้อยู่ ก็ควรหลีกเลี่ยง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ด้วยวิธีง่ายๆ ข้างต้น เพื่อจะช่วยคุณประหยัดเงิน และประหยัดเวลา ในการดูแลบำรุงผม และให้เส้นผมสุขภาพดีอยู่คู่กับเราต่อไปได้นานๆ