สงกรานต์ 2564 เตรียมตัวอย่างไรดี ทำอะไรได้บ้างและอะไรที่ห้ามทำ?

เทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยใกล้จะมาถึงแล้ว ซึ่งปีนี้รัฐบาลได้ประกาศวันหยุดเพิ่มเติม เป็นวันหยุดยาว เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับบ้านเพื่อใช้วันหยุดกับครอบครัว แต่ในเรื่องของการจัดงานรื่นเริงนั้น หลายคนก็ยังไม่มั่นใจว่าจะต้องงดเหมือนปีที่แล้วเพราะโควิด 19 หรือเปล่าหรือควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และสามารถทำกิจกรรมอะไรได้บ้างหรือไม่ได้บ้าง

ATH ได้รวบรวมข้อมูลการเตรียมตัวสำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2564 มาฝากกันค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในเรื่องแผนการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 (วันที่ 19 มีนาคม 2664) รวมถึงแนวทางการจัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ มีข้อมูลดังต่อไปนี้

กิจกรรมที่สามารถจัดได้ โดยสรุป คือ

สรงน้ำพระ

พิธีรดน้ำขอพรผู้ใหญ่

การเดินทางข้ามจังหวัด ยังคงทำได้ แต่ในบางจังหวัดจะข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น เดินทางจากจังหวัดที่เป็นเขตพื้นที่สีแดง ต้องกักตัว เป็นต้น ดังนั้น ก่อนการเดินทาง ควรเช็คข่าวให้ดีๆ ค่ะ โดยสามารถอัพเดทข้อมูลได้ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

กิจกรรมที่ไม่สามารถจัดหรือต้องงด คือ

การรวมกลุ่มสาดน้ำ

จัดคอนเสิร์ต

งดประแป้ง

งดการเล่นหรือจัดปาร์ตี้โฟม

สรุปภาพรวมคือ ปีนี้ยังไม่สามารถจัดงานรื่นเริงใหญ่ๆ เล่นน้ำหรือสาดน้ำได้ แต่กิจกรรมสำคัญอื่นๆ ในเทศกาลสงกรานต์ยังคงสามารถทำได้ ถือเป็นการฉลองสงกรานต์วิถีใหม่ที่ไม่เปียกน้ำ และยังคงสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อยู่

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้มีข่าวการกลับมาระบาดของโควิด 19 อยู่เป็นระยะในหลายๆ พื้นที่ ดังนั้น ทางที่ดีอย่าลืมเช็คข่าวสารก่อนการเดินทาง รวมถึง สังเกตและใส่ใจในการระวังตัวเอง ทั้ง Social Distancing การสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการล้างมือบ่อยๆ ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ตลอดค่ะ

แม้ว่าจะมีการงดจัดงานใหญ่ๆ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ในหลายพื้นที่อาจมีการเล่นสงกรานต์กันในกลุ่มเล็กๆ เอาบรรยากาศ หรือมีบางพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์ ตามแนวทางของรัฐ ซึ่งบางครั้ง คนที่ไปร่วมงานหรืออยู่ในพื้นที่นั้น ก็อาจหลีกเลี่ยงการเปียกหรือการโดนสาดน้ำโดยไม่ตั้งใจได้ยาก

ลองมาดูเช็คลิสต์การเตรียมตัว ทั้งแต่งตัวและทำผมอย่างไรให้เหมาะสมและเพลย์เซฟ เผื่อต้องเปียกขึ้นมาก็ยังดูดีและปลอดภัยจากโรคระบาดได้ค่ะ

ถ้าต้องไปในที่มีงานหรือกลุ่มคนเยอะๆ ช่วงสงกรานต์ การสวมหน้ากากอนามัย รวมกับการใช้ Face Shield (ยิ่งแบบที่มีแว่นตาด้วยยิ่งดี) จะทำให้คุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะ Face Shield และแว่นตาที่เป็นพลาสติกจะป้องกันน้ำที่อาจจะกระเด็นมาโดนหน้าหรือเข้าตาคุณได้ และยังป้องกันหน้ากากอนามัยไม่ให้เปียกด้วย

อย่างไรก็ตาม แนะนำให้พกหน้ากากอนามัยสำรองใส่ถุงพลาสติกติดตัวไปด้วย เพราะหากหน้ากากอนามัยที่ใส่อยู่เปียกขึ้นมา จะได้มีหน้ากากสำรองเอาไว้เปลี่ยนค่ะ

นอกจากนั้น สิ่งที่ควรพกพาติดตัวไปด้วย ก็คือ สเปรย์ หรือเจลแอลกอฮอล์ เอาไว้สำหรับล้างมือด้วยค่ะ

เสื้อผ้าเมื่อโดนน้ำก็จะมีความแนบเนื้อ ฉะนั้นเสื้อสีอ่อนๆ หรือเสื้อผ้าบางๆ เวลาโดนน้ำก็จะทำให้เห็นเรือนร่างของเราชัดมาก ดังนั้น หากมีแนวโน้มว่าพื้นที่ที่เราจะไปหรืออยู่อาศัย น่าจะมีการเล่นน้ำและเราจำเป็นต้องออกจากบ้าน ก็ควรเลือกใส่เสื้อโทนสีเข้มๆ หรือจะมีลายเยอะๆ ก็ได้ และควรมีความหนาพอสมควร เพราะจะได้ไม่ดูโป๊ แนบเนื้อแค่ไหนก็ไม่เห็นชุดชั้นใน ถ้าให้ดี อย่าลืมเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งง่าย ไม่อับชื้นนะคะ

ถ้าไม่อยากใส่เสื้อยืดเฉยๆ การหาเสื้อคลุมสักตัวมาใส่ทับก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี อาจเลือกแบบกันน้ำ หรือกันแดดได้ด้วย ก็จะช่วยปกป้องผิวจากแสงยูวีด้วยค่ะ

ลองหันมาใส่สปอร์ตบราแบบสวม แทนการใส่เสื้อชั้นใน เพราะสปอร์ตบราจะมีความกระชับ ไม่มีตะขอให้หลุด ทั้งยังค่อนข้างมีเนื้อผ้าที่หนาทีเดียว การใส่สปอร์ตบราจึงช่วยให้สาวๆ เดินทางได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวหลุด หล่นให้รำคาญใจ หรือกังวลเรื่องความบาง แถมยังซักเอาแป้งออกได้ง่ายอีกด้วยนะ

ในส่วนของทรงผม ก็ควรเลือกทำทรงผมที่มั่นใจว่าจะไม่พังแน่นอนเมื่อโดนสาดน้ำ อย่าง การมัดผมหางม้า มัดผมบัน หรือ ถักเปียสไตล์ต่างๆ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะต้องทำผมให้แน่นหนา เก็บผมให้ได้เยอะมากที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่หลุดลุ่ยออกมาง่ายๆ ให้ลงมาปรกหน้าตา ซึ่งถ้าเปียกน้ำขึ้นมา อาจทำให้น้ำไหลเข้าตาหรือปากได้

ก่อนออกจากบ้าน นอกจากเราควรจะทาครีมกันแดดให้ผิวแล้ว ก็อย่าลืมที่จะทาลีฟออนให้เส้นผมเสียหน่อย เพราะลีฟออนจะช่วยเคลือบเส้นผมเอาไว้ไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย และยังช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้นไปได้ง่ายๆ ด้วย

อีกหนึ่งวิธีในการป้องกันผมพังในวันสงกรานต์ก็คือ การใส่หมวก และยังเป็นไอเท็มช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นหรือไหลโดนใบหน้า นอกจากนั้น หมวกปีกกว้างยังช่วยบังแสงแดด ช่วยเซฟผิวหน้าและเส้นผมของเราไม่ให้โดนความร้อนมากเกินไป

ช่วงสงกรานต์ เส้นผมและหนังศีรษะอาจต้องเจอทั้งน้ำ (ที่อาจไม่สะอาด) ทั้งเหงื่อและแสงแดด รวมถึงมลพิษ อย่าง PM2.5 เสียอีก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผมเสียได้ ดังนั้น อย่าลืมใส่ใจดูแลและทำความสะอาดเส้นผมกันด้วยนะคะ

อันดับแรก คือ ควรสระผมทันทีเมื่อกลับถึงบ้านและที่พัก ไม่ว่าจะเปียกน้ำหรือไม่ก็ตาม แต่การที่เราต้องอยู่ในที่ชุมชนหรือมีคนจำนวนมาก การทำความสะอาดร่างกายและเส้นผมก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ยิ่งถ้าโดนสาดน้ำหรือเปียกด้วยแล้ว ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก อาทิ เคลียร์ แชมพูขจัดรังแคสูตร ไอซ์คูล เมนทอล และครีมบำรุงผม ที่จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างหมดจด

ปิดท้ายขั้นตอนด้วยการบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี คือการหมักผมด้วยทรีตเมนต์มาส์ก อย่าง เทรซาเม่ ซาลอน ดีท็อกซ์ มาส์ก โดยชโลมมาส์กบำรุงผมลงบนผมเปียก เน้นจากกลางจรดปลายผม ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วค่อยล้างออก มาส์กสูตรนี้จะช่วยดีท็อกซ์สารเคมีตกค้างออกจากเส้นผม ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึก พร้อมให้สารบำรุงแก่เส้นผมไปพร้อมๆ กัน

หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ก็ควรเป่าผมให้แห้งทันที เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา และอาการผมขาดง่ายตามมา แต่ก่อนไดร์ผม ก็อย่าลืมฉีดสเปรย์ป้องกันความร้อน อย่าง เทรซาเม่ แฟลต ไอรอน สมูทติ้ง สเปรย์ เคราติน สมูท เพื่อช่วยปกป้องเส้นผมจากการสูญเสียความชุ่มชื้นเพราะความร้อนจากไดร์เป่าผม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสียได้ค่ะ

สงกรานต์นี้อาจจะคลายความตึงเครียดลงบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคระบาดก็ยังคงไม่แน่นอน ดังนั้น สาวๆ ที่ต้องเดินทาง หรือท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ก็ต้องระวัง การ์ดอย่าตก เพื่อให้ทริปของเราทั้งสนุกและปลอดภัยตลอดการเดินทางนะคะ