เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ แชมพูสมุนไพร

การนำเอาพืชสมุนไพรต่างๆ มาใช้ปรุงแต่งเสริมความงามนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น ชาวอียิปต์รู้จักใช้เฮนน่าย้อมผมให้มีสีแดง ชาวกรีกโรมันอาบน้ำที่เจือกลิ่นหอมจากกุหลาบ ส่วนชาวยุโรปก็รู้จักใช้น้ำมันตามธรรมชาติชนิดต่างๆ มาบำรุงผิวพรรณ รวมไปถึงคนไทยเองที่ก็รู้จักนำเอาสมนุนไพรใกล้ตัว อย่างประคำดีควาย มาใช้ทำความสะอาดเส้นผม

ในชีวิตประจำวันของคนเราทุกวันนี้ แชมพู หรือ ยาสระผม ถือเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมขั้นพื้นฐานที่ขาดไปเลยไม่ได้ เพราะนอกจากจะใช้ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะแล้ว แชมพูส่วนใหญ่ก็ยังมีสารที่ช่วยบำรุงรักษาเส้นผมอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน “แชมพูสมุนไพร” กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติกันมากขึ้น

แชมพูสมุนไพรสด เป็นแชมพูที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติล้วนๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแชมพูที่มีฟองน้อย หรือไม่มีฟองเลย แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี โดยสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้นั้นก็มีด้วยกันหลายอย่าง เช่น ว่านหางจระเข้, มะกรูด, ประคำดีควาย, น้ำชาเขียว, น้ำผึ้ง ฯลฯ

ในปัจจุบันมีการผลิตแชมพูออกมาวางขายในท้องตลาดมากมาย โดยมีส่วนผสมและวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่แตกต่างกันไปแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สำหรับเส้นผมธรรมดา, ผมแห้ง, ผมเสีย, ผมมัน หรือมีรังแค เป็นต้น ทั้งนี้การนำสารสกัดจากสมุนไพรมาผสมลงไปในแชมพูที่มีสารทำความสะอาดชนิดสังเคราะห์ จำเป็นจะต้องผ่านขบวนการสกัดที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้คุณค่าจากสมุนไพรสูญสลายไป

นอกจากนี้แชมพูที่ดีที่ได้มาตรฐานควรจะมีปรับค่า pH ให้เป็นกลาง เพื่อไม่ให้ระคายเคืองต่อหนังศีรษะ และควรมีการเติมสารต้านเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะสารสกัดจากสมุนไพรทั้งหลาย เชื้อจุลินทรีย์มักจะเจริญเติบโตได้ง่าย หากเลือกใช้แชมพูสมุนไพรที่ไม่ได้ผ่านขบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะคัน หรือผมร่วง เนื่องมาจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์จากสมุนไพรนั่นเอง

ผมมัน ควรเลือกใช้แชมพูที่มีสารสกัดจาก แตงกวา, กระเพรา, เบอร์กามอท และจูนิเปอร์ ซึ่งจะช่วยลดความมันเยิ้มของหนังศีรษะ และลดปัญหาเส้นผมลีบแบนได้

ผมแห้งเสีย ควรเลือกใช้แชมพูที่มีสารสกัดจาก โสม, ขิง, น้ำผึ้ง ซึ่งจะช่วยให้ผมแห้งเสียกลับมามีน้ำหนักสปริงตัวสวยอีกครั้ง

ผมแตกปลาย ควรเลือกใช้แชมพูที่มีสารสกัดจาก ตะไคร้, น้ำมันมะกอก, มะกรูด ซึ่งจะช่วยลดอาการผมแตกปลาย และช่วยปรับค่า pH ของเส้นผมที่มีความเป็นด่างจากการใช้แชมพูได้

ผมธรรมดา ถึงแม้จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็อย่าลืมที่จะบำรุงเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ โดยควรเลือกใช้แชมพูที่มีสารสกัดจาก ดอกฮอลลี่ฮ็อก, อัญชัน และมะกรูด ซึ่งจะช่วยให้ผมดกดำ สวยสุขภาพดี

มีรังแค ควรเลือกใช้แชมพูที่มีสารสกัดจาก น้ำมันไธม์, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส, น้ำชาเขียว, มะนาว และมะรุม ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดเส้นผม ทั้งยังลดการเกิดรังแคได้อีกด้วย

การขจัดรังแคโดยการใช้สมุนไพรและธรรมชาติ เป็นวิธีที่ดีและอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผมแต่สำหรับใครที่่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดรังแค ขอแนะนำให้ใช้ร่วมกับแชมพูขจัดรังแค เคลียร์ เฮอร์บัล แคร์ แอนตี้แดนดรัฟ นูริชชิ่ง แชมพู (CLEAR Herbal Care Anti-Dandruff Nourishing Shampoo) เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรที่คัดสรรมาจากทั่วโลกถึง 5 ชนิด (น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สายน้ำผึ้ง โสม มะรุม น้ำมันไธม์) เพื่อให้ผมนุ่มสวย ปราศจากรังแค*

(*ขจัดรังแคที่มองเห็นได้ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง)

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ชุดซาลอน ดีท็อกซ์นี้ มาพร้อมกับส่วนผสมจากธรรมชาติ คือ ขิงและชาเขียว ที่มาในลักษณะแชมพูใส ไม่มีการแต่งสี แถมยังไม่มีพาราเบน (สารกันเสีย) โดยเป็นสูตรดีท็อกซ์* ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารตกค้างบนหนังศีรษะ และเข้าทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างล้ำลึก พร้อมให้สารบำรุงแก่เส้นผม สามารถสระได้เป็นประจำทุกวัน

ผลิตภัณฑ์อีกตัวที่น่าสนใจในแง่ของการนำเอาสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ได้นำเอา น้ำผึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันว่ามีคุณค่าในเรื่องการบำรุงเส้นผม และอัลมอนด์ออยล์ ที่ช่วยให้ผมเงางาม และนุ่มลื่น และเมื่อทั้ง 2 ส่วนผสมรวมเข้าด้วยกัน จึงเข้าช่วยฟื้นบำรุงอย่างล้ำลึก คืนความชุ่มชื้นและชีวิตชีวาให้เส้นผม ผมดูสุขภาพดี ไม่เปราะขาดง่าย ทั้งนี้ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม และปกป้องเส้นผมด้วยความอ่อนโยน และทำให้โครงสร้างของผมกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

นอกจากการสระผมด้วยแชมพูสมุนไพรแล้ว หากมีเวลาสาวๆ ก็ควรหมักผมด้วยสมุนไพรสดๆ เป็นประจำด้วยนะคะ เพราะการหมักผมด้วยสมุนไพรจะช่วยแก้ปัญหาผมเสียต่างๆ ได้ รวมถึงช่วยบำรุงผมให้สวยสุขภาพดีอยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ