เคล็ดลับและแรงบันดาลใจ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเส้นผมของยูนิลีเวอร์
ในปัจจุบันมีอุปกรณ์ทำผมไฟฟ้าให้เราได้เลือกซื้อ เพื่อใช้ทำผมสวยๆ กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไดร์เป่าผม, เครื่องหนีบผม และเครื่องม้วนผม เป็นต้น แต่เดี๋ยวนี้เครื่องทำผมไฟฟ้าก็มีหลายแบรนด์ หลายประเภท รวมถึงมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป
เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อเครื่องทำผมไฟฟ้า นอกจากวัตถุประสงค์ในการทำผมแล้ว เราก็ยังควรคำถึงปัจจัยด้านอื่นๆ อีก ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ และความเสียหายที่อาจจะเกิดกับเส้นผมด้วย ซึ่งวันนี้ All Things Beauty ก็มีข้อควรรู้ก่อนซื้อเครื่องทำผมไฟฟ้ามาบอกต่อกัน เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อกันค่ะ
เราควรสังเกตดูด้วยว่าสายไฟตรงปลายขั้วของเครื่องทำผมไฟฟ้าหมุนได้หรือไม่? เพราะถ้าเราเลือกซื้อเครื่องทำผมไฟฟ้าที่ปลายขั้วหมุนได้ 360 องศา ก็จะมีความคล่องตัวและสะดวกสบายในการใช้มากกว่าแบบที่หมุนไม่ได้
เราควรเลือกเครื่องทำผมไฟฟ้าที่มีแผ่นทำความร้อนจากเซรามิก หรือจากทัวร์มาลีน ซึ่งช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อน และลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้
เราควรเลือกเครื่องทำผมไฟฟ้าที่มีระบบปล่อยไอออนิค เพราะจะช่วยในการถนอมดูแลและรักษาระดับความชุ่มชื้นของเส้นผม ไม่ทำให้ผมแห้ง หรือเกิดไฟฟ้าสถิต
แผ่น Floating plate จะช่วยลดการดึงเส้นผมขณะใช้เครื่องทำผมไฟฟ้า ทำให้โอกาสที่ผมจะขาดร่วงลดน้อยลง และยังคงมีทรงผมสวยตามที่ต้องการ
เราควรสำรวจเครื่องทำผมไฟฟ้าว่าแผ่นมีรอยแตกหัก หรือรอยรั่วหรือไม่ เพื่อให้ได้เครื่องทำผมไฟฟ้าที่มีสภาพสมบูรณ์ มีคุณภาพดี และปลอดภัยในการใช้งาน
เราควรเลือกทำผมไฟฟ้าที่ปรับอุณหภูมิได้ เพราะความร้อนที่สูงมากๆ เพียงระดับเดียวก็อาจทำให้ผมเสียได้ ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 120-200 °C เพื่อไม่ให้ผมเสียมากเกินไป
เครื่องทำผมประเภทนี้ ทำให้ผมเรียบตรงสวย ช่วยแก้ปัญหาหนักใจสำหรับสาวๆ ที่มีผมหยิกชี้ฟู เพราะเป็นเครื่องที่ช่วยรีดให้ผมเรียบตรงสวยได้ดั่งใจ
ส่วนเครื่องหนีบผมแบบนี้มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผมเรียบตรงสวยเช่นกัน แต่ด้วยลักษณะของเครื่องหนีบผมที่ด้านนอกจะโค้งมน จึงไม่ได้ช่วยหนีบผมตรงได้เพียงอย่างเดียว เพราะจะเพิ่มวอลลุ่มให้ผมได้ด้วย
เครื่องม้วนผมไฟฟ้า หรือ เครื่องดัดลอนไฟฟ้า จะช่วยให้ได้ผมที่เป็นเกลียวลอนสวยหลากหลายสไตล์ ทั้งนี้เครื่องม้วนผมไฟฟ้าก็มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ หรือ ตั้งแต่ 19 mm ไปจนถึง 40 mm เลยทีเดียว
เครื่องทำผมไฟฟ้าชนิดนี้สามารถเปลี่ยนหัวแปรงในการทำผมให้มีวอลลุ่ม หรือดัดผมให้เป็นลอนทั้งลอนเล็กและลอนใหญ่ได้ตามต้องการ ซึ่งด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย จึงทำให้สะดวก ง่าย และสามารถทำผมออกมาได้หลายสไตล์อีกด้วย
ถ้าไม่อยากให้ผมเสียจากเครื่องทำผมไฟฟ้า ทั้งจากการหนีบผมและดัดผมนั้น อันดับแรกจะต้องไม่ใช้เครื่องในตอนที่ผมเปียกอยู่ เพราะผมเปียกนั้นอ่อนแอและไวต่อความร้อน ซึ่งอาจทำให้ผมของเราช็อตได้
ดังนั้นหลังจากสระผม เมื่อเช็ดผมพอแห้งหมาดแล้ว ควรฉีดผมด้วยสเปรย์ป้องกันความร้อน อย่าง เทรซาเม่ แฟลต ไอรอน สมูทติ้ง สเปรย์ เคราติน สมูท แล้วจึงเป่าผมให้แห้ง จากนั้นจึงใส่เซรั่มบำรุงผม หรือ ลีฟออน ตามด้วยทุกครั้ง แล้วจึงค่อยใช้เครื่องทำผมไฟฟ้าจัดแต่งทรงผมตามต้องการ
เราควรปรับความร้อนไม่ให้สูงเกินไป ซึ่งหากเป็นคนที่มีผมสุขภาพดีอยู่แล้ว สามารถใช้ความร้อนได้ที่ 160 °C แต่ถ้าหากมีผมแห้งเสียแตกปลายก็ควรใช้ความร้อนไม่เกิน 120-140 °C และสำหรับผมเส้นเล็กบางควรใช้ความร้อนไม่เกิน 140 °C เพราะผมบางจะไวต่อความร้อนได้ง่าย
นอกจากนี้คนที่มีผมหนาสามารถใช้ความร้อนอยู่ที่ 160-170 °C ซึ่งโดยปกติแล้ว เครื่องทำผมไฟฟ้าจะกำหนดความร้อนสูงสุดอยู่ที่ 200 °C แต่อย่างไรก็ดี เราไม่ควรใช้ความร้อนเกิน 180 °C เพราะความร้อนที่สูง และการสัมผัสกับเส้นผมโดยตรงเป็นเวลานาน จะทำให้ผมแห้งเสียได้ค่ะ
เครื่องทำผมไฟฟ้าประเภทต่างๆ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการจัดแต่งทรงผมของเรา ฉะนั้นสำหรับคนที่กำลังจะซื้อมาใช้ หรือคนที่กำลังมองหาเครื่องใหม่อยู่ หรือแม้แต่คนที่กำลังใช้อยู่ก็ตาม อย่าลืมคำนึงถึงสิ่งที่เราแนะนำในบทความนี้กันด้วยนะคะ เพื่อที่คุณจะได้เครื่องทำผมไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด